DB MARK DP26+ Digital Speaker Controller ครอสโอเวอร์ดิจิตอล DP 26 + dp26 + DriveRack ครอสโอเวอร์ ไดร์แร็ค เอไอ-ไพศาล +++
คุณสมบัติเด่น / รายละเอียดสินค้า:
DB MARK DP26+ Digital Speaker Controller
●96KHz sampling frequency, 32
-bit DSP processor, 24
-bit A/D and D/A converter หากใครกำลังมองหาครอสโอเวอร์ดีๆ สักตัว ราคาไม่แพง dB Mark DP26+ และ DP48+ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะมีคุณภาพเสียงยอมรับได้ สามารถใช้งานได้ทั้งระดับมือใหม่ไปจนถึงระดับอาชีพ สามารถจัดการระบบผ่านซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ PC ออกแบบให้ใช้งานง่าย มีรูปแบบการเชื่อมต่อควบคุมจัดการให้เลือกหลายแบบ ทั้ง DP26+ และ DP48+ มีภาคคอนเวอเตอร์ 24
-bit/96kHz ภาค DSP ประมวลผล 32
-bit มี 30 user
-program มีพาราเมทริก EQ 6 แบนด์ความถี่ สามารถปรับ Gain +/
-20dB อีกทั้งยังเลือกโหมดพารามิเตอร์เป็น Hi
-shelf, Lo
-shelf, APF 1st, APF 2nd ได้ (APF ; All Pass Filter) ตอบสนองความถี่ตั้งแต่
19.7Hz
-20kHz ปรับ Delay ได้ตั้งแต่ 0
-1000ms มีฟิลเตอร์ IIR ทั้งแบบ Bessel, Butterw (Butterworth) และ Lin
-Ril (Linkwitz–Riley) ตั้งแต่ 12 dB/oct ถึง 48dB/oct. ให้ใช้งาน รุ่นใหม่ยังสามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต USB
2.0 และ
3.0 แต่ในรุ่นเก่าจะรองรับเฉพาะ USB
2.0 เท่านั้น ด้านหลังมีพอร์ต RS485 ไว้ใช้งานในระยะไกล และช่อง TCP/IP ใช้ลิงค์หลายเครื่องเข้าเป็นระบบเดียวกัน ผ่านระบบ IP Address เชื่อมต่อได้สูงสุด 250 อุปกรณ์ สามารถควบคุมระยะไกลผ่านพอร์ต RS485 เป็นระยะทาง 1500 เมตร DP26 Mark IV ตัวเดิมนั้น ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะยังไม่ครบถ้วนกับความต้องการของผู้ใช้งาน ทางผู้ผลิตจึงมีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมา ตัว DP26+ มีปรับปรุงลูกเล่นให้แตกต่างจากรุ่น Mark IV สิ่งแรกคืออุปกรณ์เสริมช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ DP26+ ได้จำนวนหลายๆ เครื่องเป็นระบบเดียว ซึ่งในรุ่นก่อนหน้าฟังก์ชันยังไม่สมบูรณ์นัก ส่วนสเป็คโดยรวมของเครื่องส่วนใหญ่ยังเหมือนเดิม ภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกัน เมื่อเชื่อมต่อ DP26+ ระบบซอฟต์แวร์จะมองเห็นจำนวนอินพุต 2 ช่องและเอาต์พุตจำนวน 6 ช่อง และ DP48+ บนซอฟต์แวร์ระบบจะมองเห็นอินพุต 4 ช่องและเอาต์พุตจำนวน 8 ช่อง ฟังก์ชันบนซอฟต์แวร์บริหารจัดการในแบบเดียวกันทั้ง DP26+ และ DP48+ ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ อีกอย่างยังสามารถควบคุมอุปกรณ์ผ่านระบบ LAN ได้ โดยใช้อุปกรณ์เสริมที่ชื่อ UTWR1 ด้วยการเชื่อมต่อ DP26+/DP48+ เข้ากับ UTW1 ด้วยสาย USB
3.0 แล้วต่อสาย LAN ไปเข้าที่ไวร์เลสเราท์เตอร์ แล้วนำ PC เชื่อมต่อผ่านไวร์เลส จากคู่มือในรุ่นใหม่นี้สามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ LAN ได้ถึง 6 รูปแบบเลยทีเดียว นอกจากนี้ ในรุ่นเก่าฟังก์ชันฝั่งอินพุตแทบจะไม่มีอะไร จะมีเฉพาะ Noise Gate, Delay แต่ในรุ่น DP26+ ฟังก์ชัน EQ สามารถเลือกโหมดได้ จัดการ Delay ได้ดีขึ้น รวมถึงยังมีฟังก์ชัน DEQ หรือ Dynamic EQ ให้ 2 แบนด์ และฟังก์ชัน AGC (Automatic Gain & Compression) และสามารถกำหนดให้ซ่อน/แสดงกราฟ Phase ในขณะที่ปรับแต่ง EQ ทำให้ผู้ใช้รู้ว่าในขณะปรับแต่งความถี่ต่างๆ นั้น Phase มีการ Shift ในลักษณะไหน สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง DP26+ และ DP48+ คือหน้าตาของอุปกรณ์ เหมือนทำหน้ากากเดียวแต่ใช้ผลิตได้ทั้ง 2 Series แถมยังใช้ซอฟต์แวร์จัดการตัวเดียวกัน ซึ่ง DP48 รุ่นก่อนหน้ามีฟังก์ชันเยอะกว่า แต่ทว่ารุ่นใหม่มีความยุ่งยากน้อยลง นั่นย่อมจะทำให้ใช้งานง่ายขึ้น
-bit DSP processor, 24
-bit A/D and D/A converter หากใครกำลังมองหาครอสโอเวอร์ดีๆ สักตัว ราคาไม่แพง dB Mark DP26+ และ DP48+ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะมีคุณภาพเสียงยอมรับได้ สามารถใช้งานได้ทั้งระดับมือใหม่ไปจนถึงระดับอาชีพ สามารถจัดการระบบผ่านซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ PC ออกแบบให้ใช้งานง่าย มีรูปแบบการเชื่อมต่อควบคุมจัดการให้เลือกหลายแบบ ทั้ง DP26+ และ DP48+ มีภาคคอนเวอเตอร์ 24
-bit/96kHz ภาค DSP ประมวลผล 32
-bit มี 30 user
-program มีพาราเมทริก EQ 6 แบนด์ความถี่ สามารถปรับ Gain +/
-20dB อีกทั้งยังเลือกโหมดพารามิเตอร์เป็น Hi
-shelf, Lo
-shelf, APF 1st, APF 2nd ได้ (APF ; All Pass Filter) ตอบสนองความถี่ตั้งแต่
19.7Hz
-20kHz ปรับ Delay ได้ตั้งแต่ 0
-1000ms มีฟิลเตอร์ IIR ทั้งแบบ Bessel, Butterw (Butterworth) และ Lin
-Ril (Linkwitz–Riley) ตั้งแต่ 12 dB/oct ถึง 48dB/oct. ให้ใช้งาน รุ่นใหม่ยังสามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต USB
2.0 และ
3.0 แต่ในรุ่นเก่าจะรองรับเฉพาะ USB
2.0 เท่านั้น ด้านหลังมีพอร์ต RS485 ไว้ใช้งานในระยะไกล และช่อง TCP/IP ใช้ลิงค์หลายเครื่องเข้าเป็นระบบเดียวกัน ผ่านระบบ IP Address เชื่อมต่อได้สูงสุด 250 อุปกรณ์ สามารถควบคุมระยะไกลผ่านพอร์ต RS485 เป็นระยะทาง 1500 เมตร DP26 Mark IV ตัวเดิมนั้น ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะยังไม่ครบถ้วนกับความต้องการของผู้ใช้งาน ทางผู้ผลิตจึงมีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมา ตัว DP26+ มีปรับปรุงลูกเล่นให้แตกต่างจากรุ่น Mark IV สิ่งแรกคืออุปกรณ์เสริมช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ DP26+ ได้จำนวนหลายๆ เครื่องเป็นระบบเดียว ซึ่งในรุ่นก่อนหน้าฟังก์ชันยังไม่สมบูรณ์นัก ส่วนสเป็คโดยรวมของเครื่องส่วนใหญ่ยังเหมือนเดิม ภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกัน เมื่อเชื่อมต่อ DP26+ ระบบซอฟต์แวร์จะมองเห็นจำนวนอินพุต 2 ช่องและเอาต์พุตจำนวน 6 ช่อง และ DP48+ บนซอฟต์แวร์ระบบจะมองเห็นอินพุต 4 ช่องและเอาต์พุตจำนวน 8 ช่อง ฟังก์ชันบนซอฟต์แวร์บริหารจัดการในแบบเดียวกันทั้ง DP26+ และ DP48+ ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ อีกอย่างยังสามารถควบคุมอุปกรณ์ผ่านระบบ LAN ได้ โดยใช้อุปกรณ์เสริมที่ชื่อ UTWR1 ด้วยการเชื่อมต่อ DP26+/DP48+ เข้ากับ UTW1 ด้วยสาย USB
3.0 แล้วต่อสาย LAN ไปเข้าที่ไวร์เลสเราท์เตอร์ แล้วนำ PC เชื่อมต่อผ่านไวร์เลส จากคู่มือในรุ่นใหม่นี้สามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ LAN ได้ถึง 6 รูปแบบเลยทีเดียว นอกจากนี้ ในรุ่นเก่าฟังก์ชันฝั่งอินพุตแทบจะไม่มีอะไร จะมีเฉพาะ Noise Gate, Delay แต่ในรุ่น DP26+ ฟังก์ชัน EQ สามารถเลือกโหมดได้ จัดการ Delay ได้ดีขึ้น รวมถึงยังมีฟังก์ชัน DEQ หรือ Dynamic EQ ให้ 2 แบนด์ และฟังก์ชัน AGC (Automatic Gain & Compression) และสามารถกำหนดให้ซ่อน/แสดงกราฟ Phase ในขณะที่ปรับแต่ง EQ ทำให้ผู้ใช้รู้ว่าในขณะปรับแต่งความถี่ต่างๆ นั้น Phase มีการ Shift ในลักษณะไหน สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง DP26+ และ DP48+ คือหน้าตาของอุปกรณ์ เหมือนทำหน้ากากเดียวแต่ใช้ผลิตได้ทั้ง 2 Series แถมยังใช้ซอฟต์แวร์จัดการตัวเดียวกัน ซึ่ง DP48 รุ่นก่อนหน้ามีฟังก์ชันเยอะกว่า แต่ทว่ารุ่นใหม่มีความยุ่งยากน้อยลง นั่นย่อมจะทำให้ใช้งานง่ายขึ้น