VISTRA GLUTA COMPLEX 1000 PLUS (30 TABLETS) วิสทร้า กลูต้า คอมเพล็กซ์ 1000 พลัส (30 เม็ด)
คุณสมบัติเด่น / รายละเอียดสินค้า:
กลูตาไธโอน
กลูตาไธโอน จัดเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ตามธรรมชาติจากกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ ซีสเทอีน กลูตามีน และไกลซีน แต่เนื่องจากสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้กระบวนการสร้างกลูตาไธโอนในร่างกายไม่เพียงพอ ดังนั้นการได้รับกลูตาไธโอนจากแหล่งอื่นเช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงจัดเป็นสิ่งที่จำเป็น
ประโยชน์หลักของกลูตาไธโอน
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
กำจัดสารพิษออกจากตับ (Detoxification)
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย (Immune Booster)
“ กลูตาไธโอน” ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันกลูตาไธโอนได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ผิวหนัง สำหรับการทำให้ผิวเนียน ขาว แลดู กระจ่างใสตามธรรมชาติ จนทำให้กลูตาไธโอนเป็นสุดยอดทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง และกลุ่มผู้ที่ต้องการมีผิวขาว
ขาว
-ดำ เกิดจากอะไร? ผิวขาวหรือดำขึ้นอยู่กับเซลล์บริเวณผิวหนังชั้นนอกที่เรียกว่า เมลาโนไซท์ (Melanocyte) ซึ่งจะทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน (Melanin) ว่าจะสร้างเม็ดสีชนิดใด ซึ่งปกติเม็ดสีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก คือ
1. เม็ดสีผิวดำ (Eumelanin)
2. เม็ดสีเหลือง (Pheomelanin) กลูตาโธโอนและกลไกการเกิดผิวขาว กลูตาโธโอน ช่วยให้ผิวขาวโดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (เอนไซม์ที่ก่อให้เกิดการผลิตเม็ดสีผิวดำ) ส่งผลให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งกลไกดังกล่าวเป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Tohoku ประเทศญี่ปุ่นที่พบว่า กลูตาโธโอน จะยับยั้งการสังเคราะห์เมลานินหรือเม็ดสีผิว โดยการเพิ่มปริมาณโดปาแต่ไม่เพิ่มปริมาณเอนไซม์ไทโรซิเนส เสริมฤทธิ์กลูตาโธโอนด้วยกรดอัลฟาไลโปอิก > จากการศึกษาพบว่ากรดอัลฟาไลโปอิก ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอนให้มากขึ้น > งานวิจัยของ Amsterdam Center for Drug Research ประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่า กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเพียงชนิดเดียวที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายโดยรังสี UVB หลักการเลือกซื้อกลูตาไธโอนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ได้รับเครื่องหมาย อย. เพื่อรับประกันความปลอดภัย มี กลูตาไธโอนอย่างน้อย 250 มิลลิกรัมต่อแคปซูล มี กรดอัลฟา
-ไลโพอิก เพื่อเสริมฤทธิ์ของกลูตาไธโอน มี ซีสเทอีน กลูตามีน และไกลซีน เป็นองค์ประกอบ Q&A “ กลูตาไธโอน” ขนาดแนะนำการรับประทานที่เหมาะสม ประโยชน์เพื่อสุขภาพ ขนาดการรับประทาน เสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ+ภูมิคุ้มกัน วันละ 250 มิลลิกรัม บำรุงและดูแลสุขภาพตับ วันละ 250
-500 มิลลิกรัม ผิวขาวกระจ่างใส วันละ 250
-500 มิลลิกรัม เซราไมด์ (Ceramide) “มหัศจรรย์สารสกัดจากข้าวเพื่อผิวขาวและชุ่มชื้น” โครงสร้างของผิว แบ่งออกเป็น 2 ชั้น
1. ผิวหนังชั้นนอก (Epidermis) เป็นผิวหนังชั้นบนสุด มีลักษณะบางมาก ประกอบไปด้วยเชลล์ เรียงซ้อนกัน 4 ชั้น โดยมีชั้นที่คอยปกป้องผิวชั้นนอกอยู่เรียกว่า Stratum Corneum ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของไขมันประเภท เซราไมด์ (Ceramide) โคเลสเตอรอลและกรดไขมันอื่น ๆ สะสมอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของ เมลานิน (Melanin) หรือเม็ดสี ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบุคคลและเชื้อชาติ จึงทำให้สีผิวของคนแตกต่างกันไป
2. ผิวหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นล่าง ชั้นนี้ประกอบไปด้วยเนี้อเยื่อ คอลลาเจน (Collagen) อีลาสติน (Elastin) หลอดเลือดฝอย เส้นประสาท ขน ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ เซราไมด์ (Ceramide) คือ? ข้าว ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิดเช่นวิตามิน แร่ธาตุและกรดไขมันที่จำเป็น รวมถึงสารที่เพิ่งได้รับการวิจัยล่าสุดว่ามีประโยชน์ต่อผิวมหาศาล นั่นก็คือ เซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งเป็นสารอาหารที่สกัดออกมาจากรำข้าว (Rice Bran) และจมูกข้าว (Rice Germ) เซราไมด์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1884 ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์เนื้อเยื่อในสมอง พบได้ทั้งในสัตว์และพืช โดยเฉพาะในข้าวจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบันกระแสความนิยมของเซราไมด์นั้นมีมากในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นในเครื่องดื่มประเภทความสวยงามและในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งจากการศึกษาพบว่า เซราไมด์นั้นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น เพราะผิว...ต้องการเซราไมด์ (Ceramide) ประโยชน์ของเซราไมด์ที่มีต่อผิวนั้นค่อนข้างหลากหลาย พบมากบริเวณผิวหนังชั้นนอก โดยเฉพาะในชั้นที่เรียกว่า Stratum Corneum มากถึง 40% ซึ่งหน้าที่ของเซราไมด์ที่มีต่อผิวนั้นมีมากมายเช่น อีลาสตินและคอลลาเจนของผิว “เซราไมด์” สารเพื่อผิวขาวจากธรรมชาติ (The Natural Whitening Effect of Ceramide) อีกคุณสมบัติที่สำคัญของเซราไมด์ คือ การทำให้ผิวขาวขึ้นโดยไปลดปริมาณการผลิตเอนไซม์ไทโร
-ดำ เกิดจากอะไร? ผิวขาวหรือดำขึ้นอยู่กับเซลล์บริเวณผิวหนังชั้นนอกที่เรียกว่า เมลาโนไซท์ (Melanocyte) ซึ่งจะทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน (Melanin) ว่าจะสร้างเม็ดสีชนิดใด ซึ่งปกติเม็ดสีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก คือ
1. เม็ดสีผิวดำ (Eumelanin)
2. เม็ดสีเหลือง (Pheomelanin) กลูตาโธโอนและกลไกการเกิดผิวขาว กลูตาโธโอน ช่วยให้ผิวขาวโดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (เอนไซม์ที่ก่อให้เกิดการผลิตเม็ดสีผิวดำ) ส่งผลให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งกลไกดังกล่าวเป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Tohoku ประเทศญี่ปุ่นที่พบว่า กลูตาโธโอน จะยับยั้งการสังเคราะห์เมลานินหรือเม็ดสีผิว โดยการเพิ่มปริมาณโดปาแต่ไม่เพิ่มปริมาณเอนไซม์ไทโรซิเนส เสริมฤทธิ์กลูตาโธโอนด้วยกรดอัลฟาไลโปอิก > จากการศึกษาพบว่ากรดอัลฟาไลโปอิก ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอนให้มากขึ้น > งานวิจัยของ Amsterdam Center for Drug Research ประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่า กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเพียงชนิดเดียวที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายโดยรังสี UVB หลักการเลือกซื้อกลูตาไธโอนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ได้รับเครื่องหมาย อย. เพื่อรับประกันความปลอดภัย มี กลูตาไธโอนอย่างน้อย 250 มิลลิกรัมต่อแคปซูล มี กรดอัลฟา
-ไลโพอิก เพื่อเสริมฤทธิ์ของกลูตาไธโอน มี ซีสเทอีน กลูตามีน และไกลซีน เป็นองค์ประกอบ Q&A “ กลูตาไธโอน” ขนาดแนะนำการรับประทานที่เหมาะสม ประโยชน์เพื่อสุขภาพ ขนาดการรับประทาน เสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ+ภูมิคุ้มกัน วันละ 250 มิลลิกรัม บำรุงและดูแลสุขภาพตับ วันละ 250
-500 มิลลิกรัม ผิวขาวกระจ่างใส วันละ 250
-500 มิลลิกรัม เซราไมด์ (Ceramide) “มหัศจรรย์สารสกัดจากข้าวเพื่อผิวขาวและชุ่มชื้น” โครงสร้างของผิว แบ่งออกเป็น 2 ชั้น
1. ผิวหนังชั้นนอก (Epidermis) เป็นผิวหนังชั้นบนสุด มีลักษณะบางมาก ประกอบไปด้วยเชลล์ เรียงซ้อนกัน 4 ชั้น โดยมีชั้นที่คอยปกป้องผิวชั้นนอกอยู่เรียกว่า Stratum Corneum ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของไขมันประเภท เซราไมด์ (Ceramide) โคเลสเตอรอลและกรดไขมันอื่น ๆ สะสมอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของ เมลานิน (Melanin) หรือเม็ดสี ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบุคคลและเชื้อชาติ จึงทำให้สีผิวของคนแตกต่างกันไป
2. ผิวหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นล่าง ชั้นนี้ประกอบไปด้วยเนี้อเยื่อ คอลลาเจน (Collagen) อีลาสติน (Elastin) หลอดเลือดฝอย เส้นประสาท ขน ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ เซราไมด์ (Ceramide) คือ? ข้าว ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิดเช่นวิตามิน แร่ธาตุและกรดไขมันที่จำเป็น รวมถึงสารที่เพิ่งได้รับการวิจัยล่าสุดว่ามีประโยชน์ต่อผิวมหาศาล นั่นก็คือ เซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งเป็นสารอาหารที่สกัดออกมาจากรำข้าว (Rice Bran) และจมูกข้าว (Rice Germ) เซราไมด์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1884 ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์เนื้อเยื่อในสมอง พบได้ทั้งในสัตว์และพืช โดยเฉพาะในข้าวจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบันกระแสความนิยมของเซราไมด์นั้นมีมากในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นในเครื่องดื่มประเภทความสวยงามและในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งจากการศึกษาพบว่า เซราไมด์นั้นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น เพราะผิว...ต้องการเซราไมด์ (Ceramide) ประโยชน์ของเซราไมด์ที่มีต่อผิวนั้นค่อนข้างหลากหลาย พบมากบริเวณผิวหนังชั้นนอก โดยเฉพาะในชั้นที่เรียกว่า Stratum Corneum มากถึง 40% ซึ่งหน้าที่ของเซราไมด์ที่มีต่อผิวนั้นมีมากมายเช่น อีลาสตินและคอลลาเจนของผิว “เซราไมด์” สารเพื่อผิวขาวจากธรรมชาติ (The Natural Whitening Effect of Ceramide) อีกคุณสมบัติที่สำคัญของเซราไมด์ คือ การทำให้ผิวขาวขึ้นโดยไปลดปริมาณการผลิตเอนไซม์ไทโร
Q : | ต้องรับประทานอย่างไร เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนและรวดเร็ว? |
A : | รับประทานอย่างน้อยวันละ 250 มิลลิกรัม และจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับประทานร่วมกับวิตามินซีจาก ธรรมชาติเช่น อะเซโรลา เชอร์รี่ และเพื่อให้ผิวขาวอย่างมีสุขภาพควรทาครีมกันแดดก่อนการออกแดดทุกครั้ง |
Q : | ถ้าหากหยุดรับประทานแล้วผิวจะคล้ำลงหรือไม่? |
A : | จะขาวได้ระยะนานมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพผิว เช่น ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงช่วงที่แดดแรงจัด หากปฏิบัติตามนี้ผิวขาวจะคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน |
ปกป้องผิว : | ดูแลและปกป้องผิวจากมลพิษต่าง ๆ อนุมูลอิสระ เชื้อโรค และรังสี UV |
ประสานผิว : | ดูแลความแข็งแรงให้กับผิวโดยการเป็นตัวประสานระหว่างเซลล์ผิวทั้งหมดเข้าด้วยกัน |
รักษาความยืดหยุ่นของผิว : | โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่เข้าทำลายผิว เช่นอีลาสเทส (Elastaste Enzyme), และคอลลาจีเนส (Collagenase Enzyme) ที่จะเข้ามาทำลาย |
เพิ่มความชุ่มชื้น : | ปกป้องการสูญเสียน้ำโดยการกักเก็บน้ำไว้ภายใต้ผิวหนัง |
ลดอาการของโรคบางชนิด : | เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis), โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) |