อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ อัจฉริยะเอกของโลก กับการจับกระแสวิเคราะห์ วิถีการเปลี่ยนแปลงของโลก

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เสียชีวิตไปเกือบหกสิบปีแล้ว แต่ชื่อเสียงก็ยังคงอยู่ถึงปัจจุบันและจะยังอยู่ต่อไปอีกนาน เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษ เป็นผู้ที่บรรลุทางปัญญาสูงสุดในทางโลก เป็นแบบอย่างของบุคคลที่เรียกได้ว่าอภิมหาอัจฉริยะ ซึ่งมีมนุษย์เพียงไม่กี่คนที่ได้รับเกียรติให้เรียกเช่นนี้ จากการจัดอันดับผู้มีอิทธิพลสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก โดยนิตยสารไทม์ส ซึ่งจัดทำขึ้นในปี ค.ศ. 1999 ไอน์สไตน์ได้รับการเลือกให้เป็นบุคคลแห่งศตวรรษ จาก ความเป็นอัจฉริยบุคคลของเขา และในปี ค.ศ. 1999 เช่นเดียวกัน ชื่อของไอน์สไตน์ได้รับการโหวตจากบรรดานักฟิสิกส์ทั่วโลกให้เป็นยอดนักฟิสิกส์ตลอดกาล ซึ่งความจริงแล้วก่อนโหวต ทุกคนก็รู้กันอยู่ว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นใคร ในวัยเด็ก ไอน์สไตน์เป็นคนเก็บตัว เงียบขรึมและพูดช้า ชอบนั่งเหม่อลอย จนบิดาคิดว่าเขามีอาการทางสมองผิดปกติ และเมื่อถึงเวลาต้องเข้าโรงเรียน ครูประจำชั้นบอกว่าสมองของเขาช้าเกินไปที่จะเรียน บิดาจึงจ้างครูมาสอนพิเศษที่บ้าน ส่วนมารดาหาทางออกด้วยการให้เรียนเปียโนและไวโอลินแทน จุดเปลี่ยนของ ไอน์สไตน์มาจากนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งซึ่งแวะมากินอาหารเย็นที่บ้านเขาอยู่เป็นประจำ ทั้งสองเป็นเพื่อนรักต่างวัยที่คุยกันอย่างสนุกสนาน ไอน์สไตน์กล้าตั้งคำถามยาก ๆ ซึ่งคนอื่นมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เช่น ทำไมเข็มทิศจึงชี้ไปทางเหนือ ถ้าทำความเร็วได้เท่าแสงจะเกิดอะไรขึ้น เวลาเริ่มต้นมาจากไหน จักรวาลคืออะไร ฯลฯ ซึ่งนักศึกษาแพทย์ คนนั้นก็พยายามตอบคำถามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และบางครั้งต้องไปค้นคว้าที่ห้องสมุดมาเพิ่มเติม ไอน์สไตน์แสดงความเป็นอภิมหาอัจฉริยะครั้งแรกด้วยการคิดทฤษฎีพลิกโลกออกมาถึงสี่ทฤษฎีพร้อมกัน คือ หนึ่ง ทฤษฎีโฟโตอิเล็กทริกที่อธิบายว่าแสงเป็นเม็ดอนุภาค สอง การเคลื่อนที่แบบราวเนียนที่ทำให้ค้นพบโมเลกุล สาม ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษที่เปิดเผยความลับของเวลา และสี่ สูตร E=mc2 ค้นพบพลังงานแฝงที่ซ่อนอยู่ในมวลสารอย่างมหาศาลทำให้เกิดพลังงานนิวเคลียร์ แต่ละทฤษฎีสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ อาจต้องใช้เวลานับพันปีในการค้นพบ นับจาก อาร์คิมิดีสจนถึงกาลิเลโอช่วงเวลาทิ้งห่างถึงเกือบสองพันปีที่โลกไม่ได้พบทฤษฎีอะไรใหม่ ๆ เลย แต่เมื่อไอน์สไตน์มาเกิด เขาใช้เวลาเพียงสี่เดือนในการประกาศการค้นพบทั้งสี่ทฤษฎีรวด ในขณะที่เขามีอายุเพียง 26 ปี .... งานเขียนของไอน์สไตล์ได้รับการยอมรับนับถือจากทั่วโลกว่าเป็นความคิดของผู้ที่รู้แจ้งเห็นจริงเกี่ยวกับโลกและจักรวาล คำคมที่เขาเขียนได้รับการอ้างอิงมากที่สุดในโลก ในวันที่เสียชีวิต ไอน์สไตน์แทบไม่เหลือมรดกที่เป็นทรัพย์สินเงินทอง เพราะขณะที่มีชีวิตอยู่เขาไม่ได้ปรารถนาสิ่งเหล่านั้น เขาใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่สิ่งที่มีค่ามากกว่านั้นคืองานเขียนนั่นเอง เขาประกาศยกลิขสิทธิ์งานเขียนทั้งหมดให้กับมหาวิทยาลัย เพื่อให้เป็นมรดกอันล้ำค่าของมนุษยชาติ