ของแท้ เบิกศูนย์ 100% วาล์วน้ำ Toyota AE100 AE101 AE111 AE112 5A-FE 4A-FE ไฮทอร์ค ตองหนึ่ง
คุณสมบัติเด่น / รายละเอียดสินค้า:
วาล์วน้ำ"สำคัญไฉน??เมื่อถอดวาล์วน้ำออก คุณจะได้เครื่องยนต์ที่ร้อนช้า ยิ่งวิ่งทางไกลเครื่องยนต์จะเย็นกว่าปกติ แต่ปัญหาที่ตามมาคือการบริโภคเชื้อเพลิงที่มากกว่าปกติและการสึกหรอจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย... มีคำถามจากผู้ใช้รถ ไฮทรอค
1.6 ปี 2000 สรุปใจความได้ว่า รถมีปัญหาเรื่องความร้อน เมื่อเข้าอู่ ช่างบอกว่ามีปัญหาที่วาล์วน้ำพร้อมแนะนำว่าเมืองไทยอาการร้อนไม่จำเป็นต้องใส่ จึงมีความสงสัยว่าจะถอดวาล์วน้ำออกได้เลยหรือเปล่า แล้วจะมีผลเสียต่อเครื่องยนต์หรือไม่ จากข้อมูลข้างต้นขอตอบว่า การถอดวาล์วน้ำออกเพื่อแก้ปัญหาความร้อนนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งไม่ถูกต้อง จริง ๆ แล้วควรตรวจสอบระบบความร้อนทั้งระบบก่อนว่ามีอะไรชำรุดเสียหายบ้าง แล้วทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้น ๆ ทั้งนี้หากยังจำกันได้ “รู้ก่อนเหยียบ”เคยนำเสนอบทความเกี่ยวกับ “วาล์วน้ำ” ไว้ในตอน “วาล์วน้ำ” สิ่งสำคัญ...ที่มักถูกลืม ? แต่เพื่อเป็นการทวนความจำและสำหรับท่านที่ยังไม่รู้หลักการทำงานของ “วาล์วน้ำ”จึงขอนำมาเสนอกันอีกครั้ง วาล์วน้ำ (เทอร์โมสตัท) มีหน้าที่ควบคุมปริมาณการไหลของน้ำโดยใช้อุณหภูมิเป็นตัวกำหนด การทำงานเมื่อติดเครื่องยนต์ใหม่ ๆ เครื่องยังเย็นอยู่วาล์วน้ำจะปิดเพื่อให้เครื่องยนต์ร้อนจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในรถแต่ละรุ่น (อยู่ระหว่าง 75
-102 องศาเซลเซียส) และรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์และห้องเผาไหม้ให้ได้ความร้อนคงที่ เพื่อให้ได้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์และสึกหรอน้อยที่สุด ทั้งนี้เมื่อความร้อนเริ่มสูงจนถึงอุณหภูมิที่กำหนดวาล์วน้ำก็จะเปิดเพื่อให้น้ำร้อนไหลออกจากเครื่องยนต์และน้ำเย็นไหลเข้าไปแทนที่ โดยจะเปิดมากหรือน้อยนั้นแปรผันตามอุณหภูมิ จุดประสงค์ก็เพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในค่าที่กำหนด วาล์วน้ำเสียอาจเกิดจากตะกรัน ในระบบหล่อเย็นในเครื่องยนต์ที่ไม่สะอาดหรือสปริงเสื่อมค่าลง ส่งผลให้วาล์วน้ำค้าง ถ้าค้างในลักษณะเปิดเครื่องจะร้อนช้า แต่ถ้าค้างในลักษณะปิด จะทำให้น้ำไม่ไหลเวียนมาระบายความร้อนที่หม้อน้ำ ความร้อนของเครื่องยนต์จะขึ้นสูง จนเกิดความเสียหายได้ แต่อย่างไรก็ตามวาล์วน้ำ จะไม่เสียทันทีทันใดแต่จะเริ่มมีอาการให้เห็นก่อน เพียงแต่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะไม่ได้สังเกตหรือมองข้ามไป การดูแลรักษาวาล์วน้ำมักเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามอยู่เสมอ และหลาย ๆ ครั้งคือต้นเหตุการปล้นเงินในกระเป๋าของเรา กล่าวคือเมื่อวาล์วน้ำเสียหายแล้วปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นต้องเปิดฝาสูบออกมาซ่อมแซมกันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรหมั่นสังเกตระดับความร้อน ว่าผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ ไม่ว่าจะเย็นไปหรือร้อนไป หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาช่างหรือศูนย์บริการผู้ชำนาญ เทคนิคควรรู้
-ถ้ารถของคุณมีปัญหาระบบความร้อน แล้วช่างแนะนำให้ถอดวาล์วน้ำทิ้ง ให้รีบถอดห่างออกมาทันที เพราะการถอดวาล์วน้ำทิ้ง คือต้นตอของปัญหาที่จะตามมาอีกไม่รู้จบ ทั้งนี้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็น พัดลม
-หม้อน้ำ
-ปั๊มน้ำ
-วาล์วน้ำ
-ท่อทางต่าง ๆ เพื่อหาต้นตอของปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด
-เมื่อถอดวาล์วน้ำออก คุณจะได้เครื่องยนต์ที่ร้อนช้ากว่าเดิม เมื่อวิ่งทางไกลเครื่องยนต์จะเย็นกว่าปกติเนื่องจากน้ำวนได้ตลอดเวลา แต่ปัญหาที่ตามมาคือเครื่องยนต์จะบริโภคเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ การสึกหรอจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
-ถึงรถของเราไม่มีปัญหาด้านความร้อน ก็ควรตรวจสอบวาล์วน้ำทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็น
-วิธีตรวจสอบวาล์วน้ำว่ายังทำงานปกติหรือไม่ หากพอมีความรู้ทางช่างอยู่บ้างให้ ถอดวาล์วน้ำ ออกมานำไปใส่หม้อใส่น้ำแล้วต้มวาล์วจนเดือด เพื่อดูว่าวาล์วน้ำเปิดตามปกติหรือไม่และเมื่อนำขึ้นจากน้ำร้อนแล้วปล่อยให้เย็น วาล์วน้ำจะต้องปิด แต่ถ้าไม่อยากถอด ก็ติดเครื่องรถทิ้งไว้สักพัก ใช้มือแตะที่ท่อน้ำด้านบนเมื่อรู้สึกร้อน ให้ลองเอามือจับท่อน้ำด้านล่าง ถ้ายังเย็นแสดงว่าวาล์วน้ำยังไม่เปิด แต่ถ้าร้อนใกล้เคียงกับท่อบน แสดงว่าวาล์วน้ำเปิดแล้วซึ่งถือว่ายังปกติ “ร้อนไปก็ไม่ดี
-เย็นไปก็ไม่ได้” ในเมื่อ “วาล์วน้ำ”เกี่ยวดองหนองยุ่งอยู่กับความร้อน จึงควรหมั่นดูแลกันซักนิดเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เป็นสินค้า Toyota เบิกศูนย์แท้ 100%
1.6 ปี 2000 สรุปใจความได้ว่า รถมีปัญหาเรื่องความร้อน เมื่อเข้าอู่ ช่างบอกว่ามีปัญหาที่วาล์วน้ำพร้อมแนะนำว่าเมืองไทยอาการร้อนไม่จำเป็นต้องใส่ จึงมีความสงสัยว่าจะถอดวาล์วน้ำออกได้เลยหรือเปล่า แล้วจะมีผลเสียต่อเครื่องยนต์หรือไม่ จากข้อมูลข้างต้นขอตอบว่า การถอดวาล์วน้ำออกเพื่อแก้ปัญหาความร้อนนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งไม่ถูกต้อง จริง ๆ แล้วควรตรวจสอบระบบความร้อนทั้งระบบก่อนว่ามีอะไรชำรุดเสียหายบ้าง แล้วทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้น ๆ ทั้งนี้หากยังจำกันได้ “รู้ก่อนเหยียบ”เคยนำเสนอบทความเกี่ยวกับ “วาล์วน้ำ” ไว้ในตอน “วาล์วน้ำ” สิ่งสำคัญ...ที่มักถูกลืม ? แต่เพื่อเป็นการทวนความจำและสำหรับท่านที่ยังไม่รู้หลักการทำงานของ “วาล์วน้ำ”จึงขอนำมาเสนอกันอีกครั้ง วาล์วน้ำ (เทอร์โมสตัท) มีหน้าที่ควบคุมปริมาณการไหลของน้ำโดยใช้อุณหภูมิเป็นตัวกำหนด การทำงานเมื่อติดเครื่องยนต์ใหม่ ๆ เครื่องยังเย็นอยู่วาล์วน้ำจะปิดเพื่อให้เครื่องยนต์ร้อนจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในรถแต่ละรุ่น (อยู่ระหว่าง 75
-102 องศาเซลเซียส) และรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์และห้องเผาไหม้ให้ได้ความร้อนคงที่ เพื่อให้ได้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์และสึกหรอน้อยที่สุด ทั้งนี้เมื่อความร้อนเริ่มสูงจนถึงอุณหภูมิที่กำหนดวาล์วน้ำก็จะเปิดเพื่อให้น้ำร้อนไหลออกจากเครื่องยนต์และน้ำเย็นไหลเข้าไปแทนที่ โดยจะเปิดมากหรือน้อยนั้นแปรผันตามอุณหภูมิ จุดประสงค์ก็เพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในค่าที่กำหนด วาล์วน้ำเสียอาจเกิดจากตะกรัน ในระบบหล่อเย็นในเครื่องยนต์ที่ไม่สะอาดหรือสปริงเสื่อมค่าลง ส่งผลให้วาล์วน้ำค้าง ถ้าค้างในลักษณะเปิดเครื่องจะร้อนช้า แต่ถ้าค้างในลักษณะปิด จะทำให้น้ำไม่ไหลเวียนมาระบายความร้อนที่หม้อน้ำ ความร้อนของเครื่องยนต์จะขึ้นสูง จนเกิดความเสียหายได้ แต่อย่างไรก็ตามวาล์วน้ำ จะไม่เสียทันทีทันใดแต่จะเริ่มมีอาการให้เห็นก่อน เพียงแต่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะไม่ได้สังเกตหรือมองข้ามไป การดูแลรักษาวาล์วน้ำมักเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามอยู่เสมอ และหลาย ๆ ครั้งคือต้นเหตุการปล้นเงินในกระเป๋าของเรา กล่าวคือเมื่อวาล์วน้ำเสียหายแล้วปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นต้องเปิดฝาสูบออกมาซ่อมแซมกันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรหมั่นสังเกตระดับความร้อน ว่าผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ ไม่ว่าจะเย็นไปหรือร้อนไป หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาช่างหรือศูนย์บริการผู้ชำนาญ เทคนิคควรรู้
-ถ้ารถของคุณมีปัญหาระบบความร้อน แล้วช่างแนะนำให้ถอดวาล์วน้ำทิ้ง ให้รีบถอดห่างออกมาทันที เพราะการถอดวาล์วน้ำทิ้ง คือต้นตอของปัญหาที่จะตามมาอีกไม่รู้จบ ทั้งนี้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็น พัดลม
-หม้อน้ำ
-ปั๊มน้ำ
-วาล์วน้ำ
-ท่อทางต่าง ๆ เพื่อหาต้นตอของปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด
-เมื่อถอดวาล์วน้ำออก คุณจะได้เครื่องยนต์ที่ร้อนช้ากว่าเดิม เมื่อวิ่งทางไกลเครื่องยนต์จะเย็นกว่าปกติเนื่องจากน้ำวนได้ตลอดเวลา แต่ปัญหาที่ตามมาคือเครื่องยนต์จะบริโภคเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ การสึกหรอจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
-ถึงรถของเราไม่มีปัญหาด้านความร้อน ก็ควรตรวจสอบวาล์วน้ำทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็น
-วิธีตรวจสอบวาล์วน้ำว่ายังทำงานปกติหรือไม่ หากพอมีความรู้ทางช่างอยู่บ้างให้ ถอดวาล์วน้ำ ออกมานำไปใส่หม้อใส่น้ำแล้วต้มวาล์วจนเดือด เพื่อดูว่าวาล์วน้ำเปิดตามปกติหรือไม่และเมื่อนำขึ้นจากน้ำร้อนแล้วปล่อยให้เย็น วาล์วน้ำจะต้องปิด แต่ถ้าไม่อยากถอด ก็ติดเครื่องรถทิ้งไว้สักพัก ใช้มือแตะที่ท่อน้ำด้านบนเมื่อรู้สึกร้อน ให้ลองเอามือจับท่อน้ำด้านล่าง ถ้ายังเย็นแสดงว่าวาล์วน้ำยังไม่เปิด แต่ถ้าร้อนใกล้เคียงกับท่อบน แสดงว่าวาล์วน้ำเปิดแล้วซึ่งถือว่ายังปกติ “ร้อนไปก็ไม่ดี
-เย็นไปก็ไม่ได้” ในเมื่อ “วาล์วน้ำ”เกี่ยวดองหนองยุ่งอยู่กับความร้อน จึงควรหมั่นดูแลกันซักนิดเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เป็นสินค้า Toyota เบิกศูนย์แท้ 100%