น้ำยาลอกกาวอเนกประสงค์1ลิตร
คุณสมบัติเด่น / รายละเอียดสินค้า:
ช่วยลอกคราบกาวต่างๆ ที่ติดอยู่บนกระจก หลังจากที่เราทำการลอกแผ่นฟิล์มออก โดยน้ำยาตัวนี้เหมาะสำหรับในการ ใช้งานลอกคราบกาวบนกระจกบานหลังที่มีเส้นไล่ฝ้าเป็นอย่างมาก กลิ่นไม่ฉุน ไม่ใช่ทินเนอร์ ใช้เช็ดทำความสะอาดคอนโซลรถได้ ช้ในการลอกคราบกาวที่ติดอยู่บนกระจกออก โดยน้ำยาจะทำปฏิกิริยากับกาว ทำให้กาวละลายออก กลิ่นไม่ฉุน ไม่ใช่ทินเนอร์ ใช้เช็ดทำความสะอาดคอนโซลรถได้วิธีการใช้
1. ลอกแผ่นฟิล์มออกจากกระจกให้หมด (ถ้าแผ่นฟิล์มแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ดูวิธีการอบฟิล์มด้านล่าง)
2. ฉีดน้ำยาลงบนคราบกาวให้ทั่วๆ พอชุ่มๆ
3. ทิ้งไว้สักพัก (3
-5 นาที) เมื่อกาวเริ่มอ่อนตัวให้ใช้เกียงพลาสติกหรืออุปกรณ์ในการขูดลอก ขูดคราบกาวออก
4. ถ้ายังมีคราบกาวหลงเหลือสามารถฉีดซ้ำและขูดออก
5. เมื่อคราบกาวหมดสามารถทำความสะอาดซ้ำได้ด้วยน้ำยาติดตั้งฟิล์ม ข้อควรระวัง
1. ห้ามสูดดมโดยตรง
2. ห้ามรับประทาน
3. ระวังอย่าให้น้ำยาเข้าดวงตา
4. ระหว่างการใช้งานควรเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่นออก
5. ควรหากระดาษหรือผ้าวางคอนโซลรถเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
6. กรณีที่น้ำยาโดนคอนโซลรถแล้วเกิดรอยด่าง เกิดจากน้ำยาไปกัดคราบสกปรกที่คอนโซล สามารถใช้น้ำยาฉีดลงบนผ้าที่สะอาด เช็ดบริเวณอื่นๆ รอบด้านได้ เทคนิคการอบฟิล์ม(พิเศษ) กรณีที่แผ่นฟิล์มแตกเป็นสะเก็ดไม่สามารถลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ได้ กระจกบานอื่นๆ สามารถใช้ใบมีดขูดลอกฟิล์มออก แต่เฉพาะกระจกบานหลังที่มีเส้นไล่ฝ้าหรือกระจกอาคารประเภทเคลือบสารบนผิวกระจกด้านนอก อาจไม่สามารถใช้ใบมีดขูดลอกได้โดยตรง จึงอาจใช้เทคนิคพิเศษร่วมกับน้ำยาลอกกาวคือ
-
1. ให้ใช้ถุงขยะสีดำแบบบาง โดยตัดแผ่ให้เป็นแผ่น และตัดทำแบบด้านนอก (เหมือนตัดแบบจะติดตั้งฟิล์ม)
-
2. นำน้ำยาลอกกาวฉีดไปบนแผ่นฟิล์ม โดยที่ไม่จำเป็นต้องลอกแผ่นฟิล์มออก โดยฉีดให้ชุ่มๆ
-
3. นำถุงดำที่เราตัดทำแบบไว้ โดยเอาด้านในของถุงแปะอยู่ฝั่งน้ำยาและกระจก และใช้มือรีดให้ถุงแนบกับกระจกให้มากที่สุด (ไม่ควรใช้เกียงหรืออื่นๆ รีดหนักๆ เพราะจะทำให้น้ำยาลอกไหลออกไปจากฟิล์มมากเกินไป)
-
4. นำพื้นที่ที่ติดถุงดำไว้ไปตากแดด ซึ่งระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับความแรงของแสงแดด โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือกรณีไม่มีแสงแดดอาจจะใช้ heat gun เป่าไปบนกระจกด้านนอกให้ทั่วๆก็ได้
-
5. ในขั้นตอนตามข้อ 4 เราอาจจะต้องหมั่นเช็คโดยการลองแซะตามขอบๆ ว่าน้ำยาระเหยซึมเข้าไปผ่านผิวของฟิล์มไปหรือยัง เพราะถ้าผ่านชั้นฟิล์มไปแล้ว ฟิล์มจะสามารถหลุดลอกออกมาเป้นแผ่นพร้อมกับถุงดำได้ทันที และควรระมัดระวังอย่าปล่อยทิ้งให้แห้งนานจนเกินไป เพราะจะทำให้กาวแห้งติดกระจกทำให้ฟิล์มไม่สามารถหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นได้
1. ลอกแผ่นฟิล์มออกจากกระจกให้หมด (ถ้าแผ่นฟิล์มแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ดูวิธีการอบฟิล์มด้านล่าง)
2. ฉีดน้ำยาลงบนคราบกาวให้ทั่วๆ พอชุ่มๆ
3. ทิ้งไว้สักพัก (3
-5 นาที) เมื่อกาวเริ่มอ่อนตัวให้ใช้เกียงพลาสติกหรืออุปกรณ์ในการขูดลอก ขูดคราบกาวออก
4. ถ้ายังมีคราบกาวหลงเหลือสามารถฉีดซ้ำและขูดออก
5. เมื่อคราบกาวหมดสามารถทำความสะอาดซ้ำได้ด้วยน้ำยาติดตั้งฟิล์ม ข้อควรระวัง
1. ห้ามสูดดมโดยตรง
2. ห้ามรับประทาน
3. ระวังอย่าให้น้ำยาเข้าดวงตา
4. ระหว่างการใช้งานควรเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่นออก
5. ควรหากระดาษหรือผ้าวางคอนโซลรถเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
6. กรณีที่น้ำยาโดนคอนโซลรถแล้วเกิดรอยด่าง เกิดจากน้ำยาไปกัดคราบสกปรกที่คอนโซล สามารถใช้น้ำยาฉีดลงบนผ้าที่สะอาด เช็ดบริเวณอื่นๆ รอบด้านได้ เทคนิคการอบฟิล์ม(พิเศษ) กรณีที่แผ่นฟิล์มแตกเป็นสะเก็ดไม่สามารถลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ได้ กระจกบานอื่นๆ สามารถใช้ใบมีดขูดลอกฟิล์มออก แต่เฉพาะกระจกบานหลังที่มีเส้นไล่ฝ้าหรือกระจกอาคารประเภทเคลือบสารบนผิวกระจกด้านนอก อาจไม่สามารถใช้ใบมีดขูดลอกได้โดยตรง จึงอาจใช้เทคนิคพิเศษร่วมกับน้ำยาลอกกาวคือ
-
1. ให้ใช้ถุงขยะสีดำแบบบาง โดยตัดแผ่ให้เป็นแผ่น และตัดทำแบบด้านนอก (เหมือนตัดแบบจะติดตั้งฟิล์ม)
-
2. นำน้ำยาลอกกาวฉีดไปบนแผ่นฟิล์ม โดยที่ไม่จำเป็นต้องลอกแผ่นฟิล์มออก โดยฉีดให้ชุ่มๆ
-
3. นำถุงดำที่เราตัดทำแบบไว้ โดยเอาด้านในของถุงแปะอยู่ฝั่งน้ำยาและกระจก และใช้มือรีดให้ถุงแนบกับกระจกให้มากที่สุด (ไม่ควรใช้เกียงหรืออื่นๆ รีดหนักๆ เพราะจะทำให้น้ำยาลอกไหลออกไปจากฟิล์มมากเกินไป)
-
4. นำพื้นที่ที่ติดถุงดำไว้ไปตากแดด ซึ่งระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับความแรงของแสงแดด โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือกรณีไม่มีแสงแดดอาจจะใช้ heat gun เป่าไปบนกระจกด้านนอกให้ทั่วๆก็ได้
-
5. ในขั้นตอนตามข้อ 4 เราอาจจะต้องหมั่นเช็คโดยการลองแซะตามขอบๆ ว่าน้ำยาระเหยซึมเข้าไปผ่านผิวของฟิล์มไปหรือยัง เพราะถ้าผ่านชั้นฟิล์มไปแล้ว ฟิล์มจะสามารถหลุดลอกออกมาเป้นแผ่นพร้อมกับถุงดำได้ทันที และควรระมัดระวังอย่าปล่อยทิ้งให้แห้งนานจนเกินไป เพราะจะทำให้กาวแห้งติดกระจกทำให้ฟิล์มไม่สามารถหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นได้