พิสตาชิโอ Raw Persian Pistachio Kernels 1 kg. ถั่วพิสตาชิโอแกะเปลือก สด ใหม่ สินค้านำเข้า คุณภาพดี เกรดพรีเมียม ถั่วพิศตาชิโอดิบใช้ทำอาหารได้ Premium Quality
คุณสมบัติเด่น / รายละเอียดสินค้า:
พิสตาชิโอ สะท้อนต้นกำเนิดของถั่วชนิดนี้ที่มาจากประเทศอิหร่าน (เปอร์เซีย) โดยต้นพิสตาชิโอมีการแพร่กระจายอยู่ในธรรมชาติในอิหร่าน เมล็ดถั่วพิสตาชิโอถูกนำมาใช้เป็นอาหารตั้งแต่กว่า 8,000 ปีก่อน
ปัจจุบันองค์การอาหารและยา ได้แนะนำให้รับประทานถั่ววันละ 1 กำมือเพื่อลดไขมัน cholesterol และด้วยรสชาติที่อร่อย กรอบ มัน แถมไขมันต่ำ บวกกับประโยชน์มากมาย ทำให้พิสตาชิโอเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่ใครหลายคนติดใจ
สรรพคุณของถั่วพิสตาชิโอ
1. ช่วยลดไขมันในเลือด พิสตาชิโอช่วยลดไขมันในเลือดได้ดีและอาจจะเอาเข้าใช้ในโครงการควบคุมน้ำหนักอย่างได้ผลได้ด้วย
2. ช่วยเพิ่มกรดไขมันดี (HDL) และลดไขมันเลว (LDL) งานวิจัยพบว่าการกินถั่วพิสตาชิโอเป็นอาหารว่าง 2
-3 สัปดาห์จะช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ 20%เพิ่มไขมันตัวดีที่มีประโยชน์ได้ถึง 48%
3. ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ สมาคมหัวใจแห่งอเมริกาพบว่า วิตามินบี6ช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีนในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
4. ช่วยลดความดันโลหิตและภาวะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองเพราะมีโพแทสเซียมสูง ถั่วพิสตาชิโอ 100กรัม มีโพแทสเซียมร้อยละ 34 ของความต้องการต่อวัน
5. ช่วยลดอาการเบาหวาน มูลนิธิโรคเบาหวานโรคอ้วนและไขมัน ได้พบในการทดลองว่า การกินพวกถั่วพิสตาชิโอวันละกำมือจะช่วยลดอาการโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ การศึกษาได้ทำกับผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวานแฝง วัยระหว่าง 25
-65ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกหนึ่งควบคุมอาหาร ให้ออกกำลังขนาดปานกลางและหนัก นาน45 นาที และให้กินถั่วพิสตาชิโอ ส่วนพวกที่เหลือคงทำแบบเดียวกันเว้นแต่ไม่ได้กินถั่วพิสตาชิโอเท่านั้น เป็นการเปรียบเทียบกันดู หลังจากระยะเวลาผ่านไป 6 เดือน ได้พบว่าพวกเขาเหล่านี้ล้วนมีน้ำหนัก ตัวลดลง ไขมันในลำไส้ต่ำลง และมีอาการตอบสนองกับอินซูลินมากขึ้น
6. มีไขมันต่ำ
7. ช่วยลดน้ำหนัก พิสตาชิโอมีไฟเบอร์(ใยอาหาร)สูง ถ้าเทียบกับน้ำหนักของถั่วใน1ออนซ์ ( ถั่วพิสทาชิโอประมาณ 47เม็ด ) ให้ใยอาหารมากกว่าผักโขมครึ่งถ้วย เมื่อทานก่อนอาหารมื้อหลักจะทำให้ทานอาหารได้น้อยเพราะในกระเพาะอาหารมีใยอาหารอยู่มาก
8. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ถั่วพิสตาชิโอมีค่าสารต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (TAC) มากกว่าแครอท12 เท่า มากกว่าบรอคโคลี 3
-4 เท่า มากกว่าบลูเบอร์รี่
9. ช่วยร่างกายสร้างภูมิต้านทานแอนติบอดีและช่วยสร้างเซลล์โลหิตใด้ดียิ่งขึ้น
10. ช่วยลดการอักเสบที่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ
11. ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในร่างกาย นักวิจัยได้เก็บรวบรวมตัวอย่างอุจจาระและผลตรวจเลือดจากอาสาสมัครจากกลุ่มคนที่บริโภคถั่วพิสทาชิโอวันละ
1.5 ออนซ์เป็นประจำใน 1 ปี และพบว่าการสะสมของแบคทีเรียต่างๆน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ตามปกติถึง 3 เท่า
12. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งปอด โดยชี้ให้เห็นว่าถั่วพิสตาชิโอช่วยเพิ่มระดับวิตามินอีธรรมชาติชนิดแกมมาโทโคเฟอรอล ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากและเซลล์มะเร็งปอด
13. ช่วยบำรุงกำลังเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดสีอมเขียวมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงกำลังร่างกายของบุรุษเพศ นักวิจัยตุรกีได้ศึกษากับกลุ่มผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วอายุระหว่าง 38
-59 ปี 17 คน ให้กินพิสตาชิโอวันละกำมือ เพื่อบำรุงเรี่ยวแรงเป็นเวลานาน 3 อาทิตย์ ได้ผลว่า พวกเขาพากันมีพละกำลังคึกคักขึ้น
14. ลดความเสี่ยงจากอาการประสาทตาเสื่อม ลูทีนที่มีอยู่ในถั่วพิสตาชิโอเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นและลดความเสี่ยงจากอาการประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
15.ช่วยบรรเทาโรคที่เกิดจากระบบประสาทและผิวหนัง
16. ช่วยลดอาการสิวกำเริบ มีงานวิจัยหลายชิ้นให้ผลตรงกันว่า วิตามินบี 6 ในพิสตาชิโอ ที่มีอยู่สูงมาก ช่วยลดอาการสิวกำเริบ ในช่วงก่อนมีประจำเดือนในหญิงวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงอาการผิดปกติในรอบเดือนด้วยเช่น อาการร้อนวูบวาบ หงุดหงิด
17. ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
18. ช่วยคลายเครียดได้ดี เนื่องจากอุดมด้วยวิตามินบีและแมกนีเซียมช่วยสร้างเซโรโทนินทำให้อารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลายจิตใจสงบ และยังมี สังกะสีช่วยในการบรรเทาความเครียดเช่นกัน
19. เป็นอาหารที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะถั่วชนิดอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์
20. สามารถนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง สามารถใช้ทำอาหาร ทานเล่น
1. ช่วยลดไขมันในเลือด พิสตาชิโอช่วยลดไขมันในเลือดได้ดีและอาจจะเอาเข้าใช้ในโครงการควบคุมน้ำหนักอย่างได้ผลได้ด้วย
2. ช่วยเพิ่มกรดไขมันดี (HDL) และลดไขมันเลว (LDL) งานวิจัยพบว่าการกินถั่วพิสตาชิโอเป็นอาหารว่าง 2
-3 สัปดาห์จะช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ 20%เพิ่มไขมันตัวดีที่มีประโยชน์ได้ถึง 48%
3. ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ สมาคมหัวใจแห่งอเมริกาพบว่า วิตามินบี6ช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีนในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
4. ช่วยลดความดันโลหิตและภาวะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองเพราะมีโพแทสเซียมสูง ถั่วพิสตาชิโอ 100กรัม มีโพแทสเซียมร้อยละ 34 ของความต้องการต่อวัน
5. ช่วยลดอาการเบาหวาน มูลนิธิโรคเบาหวานโรคอ้วนและไขมัน ได้พบในการทดลองว่า การกินพวกถั่วพิสตาชิโอวันละกำมือจะช่วยลดอาการโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ การศึกษาได้ทำกับผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวานแฝง วัยระหว่าง 25
-65ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกหนึ่งควบคุมอาหาร ให้ออกกำลังขนาดปานกลางและหนัก นาน45 นาที และให้กินถั่วพิสตาชิโอ ส่วนพวกที่เหลือคงทำแบบเดียวกันเว้นแต่ไม่ได้กินถั่วพิสตาชิโอเท่านั้น เป็นการเปรียบเทียบกันดู หลังจากระยะเวลาผ่านไป 6 เดือน ได้พบว่าพวกเขาเหล่านี้ล้วนมีน้ำหนัก ตัวลดลง ไขมันในลำไส้ต่ำลง และมีอาการตอบสนองกับอินซูลินมากขึ้น
6. มีไขมันต่ำ
7. ช่วยลดน้ำหนัก พิสตาชิโอมีไฟเบอร์(ใยอาหาร)สูง ถ้าเทียบกับน้ำหนักของถั่วใน1ออนซ์ ( ถั่วพิสทาชิโอประมาณ 47เม็ด ) ให้ใยอาหารมากกว่าผักโขมครึ่งถ้วย เมื่อทานก่อนอาหารมื้อหลักจะทำให้ทานอาหารได้น้อยเพราะในกระเพาะอาหารมีใยอาหารอยู่มาก
8. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ถั่วพิสตาชิโอมีค่าสารต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (TAC) มากกว่าแครอท12 เท่า มากกว่าบรอคโคลี 3
-4 เท่า มากกว่าบลูเบอร์รี่
9. ช่วยร่างกายสร้างภูมิต้านทานแอนติบอดีและช่วยสร้างเซลล์โลหิตใด้ดียิ่งขึ้น
10. ช่วยลดการอักเสบที่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ
11. ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในร่างกาย นักวิจัยได้เก็บรวบรวมตัวอย่างอุจจาระและผลตรวจเลือดจากอาสาสมัครจากกลุ่มคนที่บริโภคถั่วพิสทาชิโอวันละ
1.5 ออนซ์เป็นประจำใน 1 ปี และพบว่าการสะสมของแบคทีเรียต่างๆน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ตามปกติถึง 3 เท่า
12. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งปอด โดยชี้ให้เห็นว่าถั่วพิสตาชิโอช่วยเพิ่มระดับวิตามินอีธรรมชาติชนิดแกมมาโทโคเฟอรอล ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากและเซลล์มะเร็งปอด
13. ช่วยบำรุงกำลังเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดสีอมเขียวมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงกำลังร่างกายของบุรุษเพศ นักวิจัยตุรกีได้ศึกษากับกลุ่มผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วอายุระหว่าง 38
-59 ปี 17 คน ให้กินพิสตาชิโอวันละกำมือ เพื่อบำรุงเรี่ยวแรงเป็นเวลานาน 3 อาทิตย์ ได้ผลว่า พวกเขาพากันมีพละกำลังคึกคักขึ้น
14. ลดความเสี่ยงจากอาการประสาทตาเสื่อม ลูทีนที่มีอยู่ในถั่วพิสตาชิโอเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นและลดความเสี่ยงจากอาการประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
15.ช่วยบรรเทาโรคที่เกิดจากระบบประสาทและผิวหนัง
16. ช่วยลดอาการสิวกำเริบ มีงานวิจัยหลายชิ้นให้ผลตรงกันว่า วิตามินบี 6 ในพิสตาชิโอ ที่มีอยู่สูงมาก ช่วยลดอาการสิวกำเริบ ในช่วงก่อนมีประจำเดือนในหญิงวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงอาการผิดปกติในรอบเดือนด้วยเช่น อาการร้อนวูบวาบ หงุดหงิด
17. ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
18. ช่วยคลายเครียดได้ดี เนื่องจากอุดมด้วยวิตามินบีและแมกนีเซียมช่วยสร้างเซโรโทนินทำให้อารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลายจิตใจสงบ และยังมี สังกะสีช่วยในการบรรเทาความเครียดเช่นกัน
19. เป็นอาหารที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะถั่วชนิดอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์
20. สามารถนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง สามารถใช้ทำอาหาร ทานเล่น