‘ตู้เย็น’ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เชื่อว่าแทบทุกหลังคาเรือนจะต้องมีอย่างน้อย 1 ตู้ มีประโยชน์อย่างมากในการเก็บรักษาอาหารสดไว้ให้อยู่ได้นาน, ทำน้ำแข็งได้และช่วยให้คุณได้ดื่มน้ำเย็นสดชื่นเมื่อต้องการ ปัจจุบันมีนวัตกรรมมากมายพัฒนาให้ตู้เย็นมีฟังก์ชันมากกว่าที่เคย เคยรู้สึกสับสนเมื่อต้องเลือกซื้อตู้เย็นกันบ้างไหมคะ? การจะเลือกตู้เย็นสักตู้นั้นขั้นอยู่กับปริมาณที่สามารถจุได้ ขนาด และราคา นอกจากนี้ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ฟังก์ชันบางอย่างที่เขาว่าเลิศนั้นมันจำเป็นที่คุณจะต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้มาหรือไม่?
ในบทความนี้ เราจึงใคร่ขอชวนผู้อ่านมือใหม่มาทำความเข้าใจวิธีการเลือกซื้อตู้เย็นให้ลงตัวกับการใช้งาน เพื่อเป็นประโยชน์แก่การตัดสินใจซื้อสินค้าได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ช่วงท้ายของบทความเรายังได้ลิสต์สินค้าตู้เย็นยอดนิยมฉบับปี 2019 ที่อัพเดทใหม่ล่าสุดด้วย อ่านไม่จบแล้วตกเทรนด์ไม่รู้ด้วยนะเอ้า!!
สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องซื้อตู้เย็นมีอยู่หลายประเด็น อาทิ ปริมาณความจุ, ประสิทธิภาพการใช้งาน, ระบบประหยัดพลังงานและอื่น ๆ ซึ่งเราจะลงรายละเอียดในลำดับต่อไปนี้เลยค่ะ
คุณเคยเดินเข้าไปในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วสงสัยไหมว่าตู้เย็นที่ตั้งโชว์ขนาดเล็ก-ใหญ่และมีราคาหลากหลายนั้นแตกต่างกันอย่างไร? แล้วบ้านคุณควรเลือกซื้อรุ่นไหน/ขนาดไหนดีละ?
การเลือกตู้เย็นสำหรับผู้อยู่อาศัยคนเดียวนั้นแนะนำให้ซื้อตู้เย็นขนาดเล็ก ความจุไม่เกิน 3.5 คิวก็เพียงพอแล้วสำหรับการแช่อาหาร, น้ำดื่มและของสดต่าง ๆ ซึ่งตู้เย็นขนาดเล็กนี้จะมีขนาดกะทัดรัด สามารถจัดวางไว้ในห้องได้โดยไม่เปลืองพื้นที่ นอกจากนี้สำหรับคนที่อยู่หอพัก/คอนโดที่มีพื้นที่ภายในห้องจำกัดแต่จำเป็นต้องมีตู้เย็นไว้ใช้งานก็อาจ องหาทางเลือกอื่น ๆ ได้ เช่น การเลือกใช้งานตู้เย็นมินิบาร์ ความจุเพียง 1.5 – 1.6 คิว ซึ่งมีผลิตและจำหน่ายให้คุณเลือกมากมายเช่นกันค่ะ
สำหรับใครที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปนั้นจะใช้ตู้เย็นขนาดเล็กก็อาจจุสิ่งของ/อาหารได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นเราขอแนะนำให้เลือกซื้อตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกซื้อขนาดกี่คิว? ไม่ต้องห่วงค่ะ เรามีสูตรคำนวนง่าย ๆ มาบอกคุณแล้ว
วิธีการคือ นำ ‘ “70 ลิตร x จำนวนสมาชิกในครอบครัว + 100 ลิตร (ปริมาณอาหารที่มีติดตู้เย็นโดยประมาณ) + 70 ลิตร (ความจุสำรอง)” แล้วหารด้วย 28.3 ให้ได้หน่วยเป็นคิวซึ่งเป็นหน่วยนับสำหรับตู้เย็นที่ใช้กันทั่วไปในประเทศไทย เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนาดตู้เย็นที่มีความจุเหมาะสมแก่การใช้งานสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวแล้วค่ะ
ถ้าอยู่กันตั้งแต่ 2 คนแนะนำให้ซื้อตู้เย็นขนาดประมาณ 10.9 คิวจะกำลังดี แต่สำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกอยู่ 5 คนขึ้นไปควรใช้ตู้เย็นที่จุอย่างน้อย 18 คิวขึ้นไปค่ะ แล้วถ้าใครอยู่ในช่วงกำลังแพลนจะขยายครอบครัวก็ควรคิดเผื่อไว้เลยว่าจะมีตัวเล็กอีกสักกี่คนแล้วให้พิจารณาตู้เย็นขนาดใหญ่ เพราะตู้เย็นมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี เรียกได้ว่าใช้กันตั้งแต่เด็กจนเป็นหนุ่มเป็นสาวเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การคำนวนข้างต้นนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ให้ผู้อ่านพิจารณาถึงไลฟ์สไตล์ตัวเองแล้วอาจปรับเพิ่ม-ลดขนาดของตู้เย็นตามต้องการ เช่น บางคนชอบตุนของสดก็อาจเลือกขนาดใหญ่ขึ้นอีกนิด หรือบางครอบครัวมีสมาชิกเยอะแต่ชอบจ่ายตลาดและทำอาหารสดใหม่เป็นประจำทุกวัน หรือชอบออกไปทานข้าวข้างนอกก็อาจปรับลดขนาดตู้เย็นลงได้ ลองปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองดูนะคะเพราะการเลือกไซซ์นั้นก็เอื้อประโยชน์ให้คุณได้หลายด้านเลย
เมื่อมีตัวเลือกรุ่นที่โดนใจในแง่ของความจุแล้ว อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจโดยละเลยเรื่องของขนาดความกว้าง, ยาว, สูงของตู้เย็นไปเป็นอันขาด!
เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการระบายความร้อนออกด้านนอกตลอดเวลา ก่อนตัดสินใจซื้อควรกะเกณฑ์ให้ดีว่าเมื่อวางลงแล้วจะมีพื้นที่เผื่อเหลือสำหรับการระบายความร้อนนี้หรือไม่ เพราะมิฉะนั้นอาจทำให้ตู้เย็นไม่ค่อยเย็น กินไฟมากขึ้น แล้วส่งผลเสียระยะยาวอีกด้วย
ดังนั้น ทางที่ดีควรเลือกซื้อตู้เย็นโดยทำการวัดขนาดพื้นที่ที่จะนำไปวางเสียก่อน โดยให้มีพื้นที่ด้านบนเหลือไว้อย่างน้อย 5 เซนติเมตรและพื้นที่ด้านข้างทั้ง 2 ข้างอย่างน้อยข้างละ 5 มิลลิเมตรค่ะ
เนื่องจากภายในของตู้เย็นมีการแบ่งสัดส่วนและช่องเก็บของไว้อย่างมากมายตลอดทั้งตัวเครื่อง การเลือกซื้อตู้เย็นจึงควรใส่ใจเลือกที่ความสูงของตัวเครื่องด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานของสมาชิกภายในบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้งานอย่างเป็นประจำ เช่น คุณแม่, คุณยายที่ชื่นชอบการทำอาหารและมักจะเปิดหยิบจับสิ่งของอยู่ตลอด ถ้าเลือกตู้เย็นที่สูงเกินไปจะทำให้ต้องเขย่งเอื้อมหยิบ ซึ่งไม่สะดวกนักและยังอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุอีกด้วย เป็นต้นว่า ตู้เย็นขนาด 10 คิวก็มีความสูงประมาณ 160 เซนติเมตรเข้าไปแล้ว
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้งให้คำนึงถึงความสูงของสมาชิกภายในบ้านและตรวจสอบกับผู้ผลิต/จัดจำหน่ายให้แน่ใจทุกครั้งนะคะ
ตู้เย็นเป็นสิ่งของที่ประกอบมาสำเร็จรูปจากโรงงานซึ่งไม่ว่าคุณจะสั่งซื้อทางออฟไลน์หรือออนไลน์ก็จะต้องมีขั้นตอนการขนย้ายเข้าบ้านแน่นอน สิ่งสำคัญคือคุณต้องเลือกซื้อตู้เย็นที่ขนาดไม่ใหญ่เกินกว่าช่องทางเดิน/การขนย้าย ไม่อย่างนั้นอาจจะผิดหวังเพราะตู้เย็นเสียหายหรืออย่างแย่ที่สุดคือขนเข้าบ้านไม่ได้นั่นเอง
ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อให้คุณตรวจเช็คพื้นที่ตั้งแต่ประตูทางเข้าบ้าน, โถงทางเดิน, เหลี่ยมมุมบานประตูทุกห้องที่ต้องผ่านให้มีพื้นที่เหลืออย่างน้อย 10 เซนติเมตร เพื่อความคล่องตัวในการขนย้ายค่ะ
ประเด็นเรื่องทิศของการเปิดบานประตูตู้เย็นนี้จะช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกและเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นอย่างไรนั้นไปติดตามเลยค่ะ!
สำหรับใครที่บ้าน/คอนโด/หอพักมีพื้นที่จำกัด จำเป็นต้องวางตู้เย็นให้ชิดกับผนังไปด้านหนึ่ง เราแนะนำให้เลือกซื้อตู้เย็นประตูบานเดียวโดยคำนึงถึงทิศทางการเปิดใช้งานด้วย หากคุณวางตู้เย็นชิดกับผนังด้านขวา แนะนำให้เลือกประตูที่เปิดไปทางขวาเหมือนกัน เพราะจะช่วยให้คุณไม่ต้องเบี่ยงตัวเข้าไปอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูตู้เย็นและผนังบ้าน
อย่างไรก็ตามปัจจุบันก็มีผู้ผลิตหลายเจ้าออกแบบตู้เย็นมาให้เปิดใช้งานได้ทั้งด้านซ้ายและขวา ทำให้คุณเลือกซื้อได้ตามตำแหน่งที่วางและความถนัดในการใช้งานเลยค่ะ
ต่อเนื่องจากหัวข้อด้านบน สำหรับบ้านใครที่ไม่มีเงื่อนไขเรื่องพื้นที่มาเป็นข้อจำกัด คุณก็สามารถเลือกรุ่นที่ต้องการได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะบานเดี่ยวหรือบานคู่ โดยถ้าเป็นคนที่ใช้งานบ่อยครั้งและมีของสดที่ต้องการจัดเก็บจำนวนมากก็แนะนำให้เลือกซื้อตู้เย็นแบบ 2 ประตูไปเลยเพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณจัดวางอาหาร-เครื่องดื่มได้ทั้ง 2 ประตู มีช่องเก็บเยอะ แล้วจะเปิดด้านไหนก็ใช้หยิบของได้อย่างอิสระค่ะ
ตู้เย็นส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีช่องแช่แข็งกับช่องเก็บผักสดเป็นแบบลิ้นชักสามารถเลื่อนออกเมื่อจะหยิบของภายในได้ ซึ่งช่องดังกล่าวมักจะอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของตัวตู้ แต่ใครที่ใช้งานช่องแช่ทั้ง 2 นี้เป็นประจำคงไม่สะดวกค้อมตัวก้มหยิบอยู่ตลอดใช่ไหมคะ ดังนั้น หากเป็นไปได้ให้เลือกตู้เย็นรุ่นที่ทำช่องแช่แข็งหรือช่องแช่ผักสด (ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ช่องใดมากกว่ากัน) ไว้ในส่วนกลางของตัวเครื่องเพื่อให้หยิบจับสิ่งของได้อย่างสะดวกสบายขึ้นยังไงล่ะคะ
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างกินไฟมากเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ชนิด เช่น โทรทัศน์, พัดลม ถ้าคุณอยากใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยที่กระเป๋าเงินไม่แฟบ ควรทำตามคำแนะนำที่จะกล่าวต่อไปนี้เลยค่ะ
การเลือกตู้เย็นอย่างชาญฉลาดนั้นต้องเลือกที่ผ่านการทดสอบและรับรองโดยหน่วยงานที่เชี่ยวชาญแล้วว่าเป็นรุ่นประหยัดไฟฟ้า ซึ่งในไทยเรามีเครื่องหมาย “เบอร์ 5” เป็นเครื่องหมายการรับรองโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) เป็นสิ่งที่พบเห็นได้มากและเชื่อถือได้เป็นอย่างยิ่ง เมื่อกำลังจะตัดสินใจซื้อตู้เย็นรุ่นใด ๆ ให้มองหาสัญลักษณ์เลข 5 นี้เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ฉลากเบอร์ 5 ถือเป็นค่าสูงสุดของสินค้าช่วยประหยัดไฟฟ้า แต่ถ้าพบเห็นตัวเลข 4 และ 3 ก็พอใช้ได้เหมือนกัน แต่จะเป็นค่าที่กินไฟเยอะขึ้นและมีคุณสมบัติด้อยกว่าเล็กน้อย กล่าวคือ ตู้เย็นฉลากเบอร์ 3 : กินไฟ 332 หน่วย/ปี เสียค่าไฟคร่าว ๆ 840 บาท/ปี ส่วนตู้เย็นฉลากเบอร์ 4 : กินไฟ 262 หน่วย/ปี เสียค่าไฟคร่าว ๆ 644 บาท/ปี ในขณะที่ตู้เย็นฉลากเบอร์ 5 : กินไฟ 220 หน่วย/ปี เสียค่าไฟคร่าว ๆ 573 บาท/ปี เป็นไงคะ? เพียงแค่เลือกมากขึ้นอีกสักนิดจะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากเลยทีเดียว
หลายคนคงเข้าใจว่าตู้เย็นเล็กจะกินไฟน้อยกว่าตู้เย็นใหญ่ เลยตัดสินใจเลือกรุ่นกะทัดรัดมาใช้เพื่อจะได้ประหยัดค่าไฟฟ้ารายเดือน ซึ่งนั่นอาจเป็นชุดความรู้ฉบับเก่า เพราะความจริงแล้ว ตู้เย็นสมัยใหม่ถูกออกแบบมาบนฐานความคิดของการประหยัดพลังงานแต่ยังคงให้ประสิทธิภาพการทำงานได้ดีเยี่ยมเช่นเคย ทำให้แม้ตู้เย็นจะใหญ่ขึ้นสักเล็กน้อยก็ไม่ได้ทำให้ค่าไฟรายเดือนของคุณสูงขึ้น แถมกลับกลายเป็นว่าตู้เย็นขนาดเล็กจะกินไฟมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
วิธีการตรวจสอบก็ทำได้ 2 ทางคือดูที่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ตัวเครื่องจะคำนวณปริมาณหน่วยบริโภคไฟฟ้ารายเดือนและรายปีให้เห็น ซึ่งคุณก็กะประมาณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ด้วยการนำหน่วยดังกล่าวไปคูณกับค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ณ ปัจจุบันก็ได้ทราบตัวเลขแล้ว ส่วนวิธีที่ 2 คือการใช้งานไปแล้วหมั่นตรวจสอบหน่วยบริโภคจากบิลค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บทุก ๆ เดือน แบบนี้ก็จะได้ยอดค่าใช้จ่ายที่แน่นอนมากขึ้นด้วยค่ะ
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งบางรุ่นที่ราคาถูกมักเป็นเพราะใช้วัสดุคุณภาพเกรดรองลงมาซึ่งมีข้อเสียคือทำให้เกิดเสียงดังขณะทำงาน รบกวนการพักผ่อนโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่คุณควรได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสงบ ถ้าใครไม่อยากเผชิญกับเหตุดังกล่าว แนะนำว่าให้เลือกซื้อตู้เย็นที่ใช้วัสดุคุณภาพดีทำฝารอบตัวเครื่อง เพื่อให้เกิดเสียงรบกวนให้น้อยที่สุด
โดยปกติแล้วตู้เย็นขนาด 3.5 คิวหรือมากกว่าเล็กน้อยจะทำงานด้วยเสียงเงียบเพียง 20 – 30 เดซิเบลเท่านั้นค่ะ เวลาเลือกซื้อก็ลองสอบถามกับทางผู้ผลิตดูว่าตู้เย็นรุ่นนั้นมีเสียงดังแค่ไหน นอกจากนี้การตรวจสอบจากรีวิวของผู้ใช้งานจริงก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันนะคะ เพราะบางครั้งที่ผู้ผลิตว่าเสียงเบา แต่ผู้ใช้จริงต่างพากันส่ายหน้า
จากวิธีการเลือกเพื่อน ๆ คงจะเห็นแล้วใช่ไหมล่ะคะ ว่าตู้เย็นนั้นมีมากมายหลายประเภททั้งแบบมินิ ที่นิยมใช้สำหรับในห้องส่วนตัวหรือใช้ในสำนักงาน ไปจนถึงแบบ 2 ประตู และ 3 ประตูที่นิยมใช้ในครัวเรือน ตู้เย็นแต่ละแบบนั้นต่างกันที่ความจุและความเหมาะสมของขนาดพื้นที่ห้อง ใครที่กำลังตามหาตู้เย็นแบบไหนลองเข้าไปดูได้ในบทความข้างล่างนี้เลย
เมื่อได้ทำความเข้าใจกับวิธีการเลือกซื้อตู้เย็นกันไปอย่างละเอียดแล้ว อันดับต่อไปจะถึงเวลาอัพเดทสินค้าตู้เย็นยอดฮิตขายดีฉบับปี 2019 เพื่อให้ผู้อ่านได้เลือกซื้อเลือกหามาใช้งานกันอย่างไม่ตกเทรนด์ สินค้าเหล่านี้ได้ผ่านการเปรียบเทียบคุณสมบัติ, ราคา, ความพึงพอใจของผู้ใช้งานจริงมาให้แล้ว ข้อมูลครบถ้วนครบครันแบบที่ไม่ต้องหาเพิ่มที่ไหนอีกแล้วค่ะ
รุ่นนี้เป็นตู้เย็นมินิบาร์ใช้แช่เครื่องดื่ม, อาหารสด, ผลไม้ได้ตามต้องการ มีขนาดกะทัดรัดเหมือนตู้เย็นในโรงแรมเหมาะกับคนที่ในบ้านมีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดหรือหอพัก ภายในตัวเครื่องแบ่งเป็น 2 ชั้น ส่วนฝาประตูใส่ขวดน้ำได้หลายขนาดเพราะแบ่งพื้นที่เผื่อขวดสูงไว้ด้วย
ประสิทธิภาพความเย็นดีเยี่ยม สามารถคงความสดใหม่ของอาหารได้นาน คอมเพรสเซอร์เป็นแบบไร้สาร CFC ซึ่งเป็นสารก่อความเย็นที่อันตรายและส่งผลเสียให้โลกร้อน จึงสบายใจได้ว่าปลอดภัยทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจากรีวิวของผู้ใช้งานจริง เครื่องทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวนจึงสามารถตั้งวางไว้ในห้องนอนได้อย่างไร้กังวลค่ะ
ตู้เย็นรุ่นนี้จากโตชิบาเป็นรุ่นมินิบาร์โดดเด่นที่มีขนาดกะทัดรัด มาพร้อมดีไซน์สวยหรูทันสมัย เหมาะแก่การใช้ในบ้าน/คอนโด/หอพักที่มีพื้นที่จำกัด คนที่อยู่คนเดียวต้องการแช่อาหารและเครื่องดื่มไม่มาก มีคุณสมบัติเด่นที่กระจายความเย็นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้ชั้นวางแบบตะแกรงทำให้ความเย็นแทรกซึมได้ทุกส่วน ช่วยถนอมอาหารได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้คนที่ต้องการประหยัดไฟก็สบายใจได้เพราะสินค้ามีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติและถาดรองน้ำทิ้ง เมื่อน้ำแข็งละลายจึงไม่หกเลอะพื้นหรือเสี่ยงโดนไฟฟ้าดูด จากรีวิวผู้ใช้ชื่นชอบในรูปลักษณ์ ดีไซน์ที่โดดเด่นคุณภาพการใช้งานดีสมคำคุยค่ะ
ตู้เย็นจากมิตซูบิชิรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากมายทั่วโลก มีขนาดใหญ่ความจุเยอะ เหมาะกับครอบครัวตั้งแต่ 2 – 4 คน โดดเด่นตรง NEURO INVERTER ควบคุมการทำงานอย่างอัจฉริยะด้วยไมโครชิพตรวจจับและจดจำพฤติกรรมการใช้งาน ผสานกับคอมเพรสเซอร์คุณภาพและพัดลมกระจายความเย็น คงความสดใหม่ของอาหารอยู่เสมอ
ที่สำคัญ! แม้จะมีขนาดใหญ่แต่ทำงานเงียบเชียบ ครบครันด้วยคุณสมบัติเรื่องการปรับอากาศภายในตู้ให้บริสุทธิ์ ช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย-เชื้อโรคสะสม แช่ผักผลไม้ด้วยแสงสีส้มเพิ่มพูนวิตามินซี ขอบยางคุณภาพปิดสนิทความเย็นไม่รั่วออก ความร้อนภายนอกไม่ไหลเข้าแน่นอนค่ะ
ฮิตาชิก็เป็นอีกผู้ผลิตฝั่งประเทศญี่ปุ่นที่เก่งกาจเรื่องนวัตกรรมล้ำสมัย ตู้เย็นของเขารุ่นนี้ทำงานด้วยระบบ Inverter มี Eco Sensor คู่แบ่งการทำงาน 2 ส่วนแยกอิสระคือประตูบนสำหรับช่องแช่แข็งที่อุณหภูมิ – 18 องศา ส่วนช่องแช่ประตูล่างเฉลี่ยที่อุณหภูมิ 3 องศาเซลเซียสจึงได้ความเย็นพอเหมาะแก่อาหาร-เครื่องดื่ม
นอกจากนี้ถาดแช่ของสดปรับรูปแบบได้อีก 2 ลักษณะ ได้แก่ แช่ผักและแช่ของทั่วไปหรือเนื้อสัตว์ ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ปลอดภัยด้วยชั้นวางกระจกนิรภัย ภายในแบ่งสัดส่วนการแช่อาหาร-เครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี ให้คุณแช่สิ่งของที่ต้องการได้อย่างจุใจ ชาวเน็ตยกนิ้วให้เรื่องดีไซน์สวยงามโดนใจ!
ตู้เย็นรุ่นนี้จากชาร์ปมาในธีม New Generation ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ฟังก์ชันครบครัน แถมมาในราคาที่คุ้มค่า จุดเด่นคือมีดีไซน์ที่เรียบหรู ดูทันสมัย อีกทั้งมีฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ คือให้ความเย็นแบบ Direct Cool ใช้สารก่อความเย็นแบบไร้ CFC 100% ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
กิมมิคอยู่ที่ชั้นวางแบบ 3 Ways Shelve ปรับเปลี่ยนหรือพับเก็บเพื่อให้วางของชิ้นใหญ่ได้ทั้งอัน เช่น แตงโมทั้งลูก, เค้กปอนด์สูง เป็นต้น ขอบยางเป็นแบบถอดทำความสะอาดได้ ไร้สิ่งสกปรกสะสม โดนใจผู้ใช้จำนวนมากด้วยการทำงานไร้เสียง เงียบจนลืมว่ามีตู้เย็นอยู่
คราวนี้เป็นตู้เย็นยอดฮิตจาก “ซัมซุง” ผู้ผลิตเจ้าใหญ่จากฝั่งเกาหลีกันบ้างค่ะ รุ่นนี้เป็นตู้เย็นขนาดใหญ่เหมาะกับครอบครัวตั้งแต่ 3 – 5 คน มีช่องแช่อาหารมากมาย โดดเด่นด้วยระบบ Twin Cooling Plus ช่วยรักษาสมดุลความชื้นในตู้ให้อยู่ที่ 70% เทียบกับตู้เย็นรุ่นก่อนที่มีแค่ 30% ทำให้อาหารสดใหม่ยาวนานกว่าที่เคย
อีกทั้งยังแยกช่องแช่เย็นออกจากช่องแช่แข็ง ไม่ให้กลิ่นกระจายรบกวน ที่สำคัญ! ปรับเปลี่ยนโหมดตามชนิดอาหารได้มากถึง 5 ลักษณะ มีระบบ Anti-Bacterial Protector ยับยั้งการเกิดแบคทีเรียโดยการส่งอากาศผ่านแผ่นกรองเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ทำงานด้วยเสียงเงียบต่อเนื่องยาวนาน รูปลักษณ์สวยงามครองใจชาวเน็ตจนต้องยกนิ้วให้ค่ะ!
ติดโผอีกรุ่นแล้วสำหรับตู้เย็นจากโตชิบา รุ่นนี้เหมาะกับสมาชิกครอบครัว 1-2 คน ออกแบบพิเศษด้วยมือจับทั้งด้านข้างและด้านบน เปิด-ปิดตู้เย็นได้ตามถนัด ด้านในแบ่งสัดส่วนจัดเก็บอาหาร-เครื่องดื่มเป็นอย่างดี มีช่องแช่ขนาดใหญ่ หมุนปรับได้ตามการใช้งาน รองรับน้ำหนักได้มากโข สามารถวางไมโครเวฟด้านบนได้ซึ่งลงตัวมาก ๆ สำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด
พิเศษกว่าใครตรง Cyclopentane Form เป็นฉนวนกันความร้อนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมด้วยขอบยางที่ปิดแน่นด้วยแม่เหล็กจากภายใน สามารถถอดทำความสะอาดได้ด้วย ถูกใจสายอนามัยเต็ม ๆ เลยใช่ไหมคะ! การันตีอีกเสียงด้วยความพึงพอใจจากผู้ใช้ที่ยอมรับว่าใช้งานดีเป็นไปตามมาตรฐาน
ตู้เย็นยอดฮิตรุ่นนี้เป็นสินค้าคุณภาพจากแอลจี ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงอีกเจ้าจากประเทศเกาหลี เป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่ จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีพิเศษอย่าง Linear cooling กับ Door cooling ที่กระจายความเย็นอย่างทั่วถึงทั้งในห้องแช่และบริเวณประตู ช่วยรักษาสมดุลความชื้นและคงความสดใหม่ให้กับอาหาร
ตัวเครื่องใหญ่แต่ใช้พลังงานเพียงน้อยนิด อีกทั้งมีคอมเพรสเซอร์ที่ทรงคุณภาพลดการเสียดสีจึงช่วยลดเสียงขณะทำงานได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2-4 คนขึ้นไป ผู้ใช้ชื่นชอบคุณสมบัติซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคา ใครที่กำลังสนใจก็กดลิงค์ที่ให้แล้วตามไปซื้อกันได้เลยนะคะ
ไฮเออร์ เป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากชนิดจากประเทศจีน คุณภาพและราคาเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ตู้เย็นรุ่นนี้มีชื่อรุ่นเฉพาะว่า Muse series โดดเด่นที่ดีไซน์สวยงาม มีสีสันให้เลือกกว่า 5 สี มาพร้อมระบบทำความเย็นแบบไดเร็คคูลที่กระจายทั่วถึงเพื่อเสริมการรักษาอาหารให้สดใหม่ได้นานขึ้น
นอกจากนี้ตัวเครื่องบุฉนวนกันความร้อนหนาขึ้น กักเก็บความเย็นได้ดี ป้องกันความร้อนจากภายนอกไหลเข้า ทำให้ไม่กินไฟเพิ่ม ส่วนของชั้นวางและพื้นที่รอบด้านสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องคราบฝังแน่น มือจับสำหรับเปิด-ปิดก็ออกแบบมาให้ถนัดมือ ผู้ใช้จำนวนมากชื่นชอบที่ขนาดกะทัดรัดไม่กินพื้นที่ภายในห้อง
ตู้เย็นที่ได้ใจชาวเน็ตด้วยคุณสมบัติและราคานั่นก็คือ ตู้เย็นจากซัมซุงรุ่นนี้นี่เอง! ยังคงมีการใช้เทคโนโลยี Digital Inverter อันโดดเด่นของแบรนด์เช่นเคย แต่คราวนี้เน้นที่การให้ความเย็นที่ทั่วถึงด้วยระบบ All-around Cooling ควบคุมลมเย็นให้ผ่านเข้าถึงทุกซอกมุก อีกทั้งเสริมด้วยช่อง Moist Fresh รองรับการจัดเก็บอาหารที่เน่าเสียได้ง่ายด้วยการรักษาระดับความชื้นอย่างพอเหมาะ ทำให้อาหารสดยาวนานขึ้น
ที่สำคัญ! ทำงานต่อเนื่องได้อย่างยาวนานไม่มีสะดุด วางใจได้ว่าอาหารไม่เสียเพราะไฟตกหรือการตัดไฟ ด้วยคอมเพรสเซอร์ที่ปรับระดับการทำงานได้ 7 ระดับ ทำความเย็นแตกต่างกันตามอุณหภูมิอย่างอัตโนมัติ ทำงานด้วยเสียงเงียบ ราบรื่น ลดการเสียดทาน แถมไม่กินไฟอีกด้วยค่ะ
จะเห็นได้ว่าการเลือกซื้อตู้เย็นนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่เพียงแต่เลือกดีไซน์ สีสันสวยงามตามความชอบแต่ยังควรคำนึงถึงขนาดการใช้งาน ปริมาณความจุ ซึ่งแม้ว่าจะมีสูตรการคำนวณหาปริมาณความจุที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญมาให้ แต่นั่นก็เป็นเพียงไกด์ไลน์คร่าว ๆ ผู้อ่านทุกท่านควรต้องพิจารณาถึงการใช้งานของตนเองด้วยว่าควรปรับลดหรือเพิ่มขนาด เป็นต้นว่า สมาชิกในครอบครัวมีเพียง 3 – 4 คน แต่คุณเป็นสายตุนอาหารอยู่เสมอ ก็ควรเพิ่มขนาดตู้เย็นขึ้นอีก 1 – 2 คิวให้เหมาะแก่การใช้งาน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้คือฟังก์ชันการประหยัดพลังงาน เพราะตู้เย็นจะทำงานตลอดเวลา ถ้าเลือกรุ่นที่กินไฟมากจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายรายเดือนแพงขึ้นไปโดยไม่จำเป็น และย้ำอีกครั้ง! ตู้เย็นขนาดเล็กไม่ได้หมายความว่าจะกินไฟน้อยกว่าตู้เย็นใหญ่เสมอไป ให้ตรวจสอบกับผู้ผลิตให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง รับรองจะได้ของดีมาใช้งานอย่างไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ!