ยอดนิยม เครื่องชงกาแฟแคปซูล ระดับเทพ ที่สุดในปี 2025
สุดยอดเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่คุณคู่ควร *** ส่งฟรี 100% โดยKerry - เครื่องบดเมล็ดกาแฟ MINIMEX MCG3 เครื่องบด เมล็ดกาแฟ เม็ดกาแฟ เครืองชงกาแฟ กาแฟแคปซูล เครื่องชงกาแฟสด เครื่องชงกาแฟแคปซูล กาแฟ แคปซูล แคปซูลกาแฟ กาแฟอเมซอน กาแฟดํา กาแฟสด กาแฟลดน้ำหนัก กาแฟสำเร็จรูป กาแฟคั่วบด nes skg mi illy cup มาพร้อมดีไซน์ ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ซื้อพร้อม ส่งฟรีเลือกซื้อ *** ส่งฟรี 100% โดยKerry - เครื่องบดเมล็ดกาแฟ MINIMEX MCG3 เครื่องบด เมล็ดกาแฟ เม็ดกาแฟ เครืองชงกาแฟ กาแฟแคปซูล เครื่องชงกาแฟสด เครื่องชงกาแฟแคปซูล กาแฟ แคปซูล แคปซูลกาแฟ กาแฟอเมซอน กาแฟดํา กาแฟสด กาแฟลดน้ำหนัก กาแฟสำเร็จรูป กาแฟคั่วบด nes skg mi illy cup ออนไลน์ภายในตอนนี้ ออนไลน์ การันตี ก่อนซื้อควรตรวจสอบราคาขาย
คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"เครื่องชงกาแฟแคปซูล"นั้นโดยมีทั้ง *** ส่งฟรี 100% โดยKerry - เครื่องบดเมล็ดกาแฟ MINIMEX MCG3 เครื่องบด เมล็ดกาแฟ เม็ดกาแฟ เครืองชงกาแฟ กาแฟแคปซูล เครื่องชงกาแฟสด เครื่องชงกาแฟแคปซูล กาแฟ แคปซูล แคปซูลกาแฟ กาแฟอเมซอน กาแฟดํา กาแฟสด กาแฟลดน้ำหนัก กาแฟสำเร็จรูป กาแฟคั่วบด nes skg mi illy cup แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับแนะนำ 1 อันดับเครื่องชงกาแฟแคปซูลคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้
4.KP1A0166 เครื่องชงกาแฟแคปซูล KRUPS Nescafe Dolce Gustoเ tefal พร้อมใช้งานใน 40 วินาที
/a>ต้องขออภัย!
ตอนนี้ยังไม่พบรายละเอียดของสินค้านี้ เรากำลังรวบรวมข้อมูลโปรดคลิ๊กที่ปุ่มดูข้อมูลที่เว็บไชต์ที่เราแนะนำ
ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้าน.... s.electric
บทสรุป
สุดยอดรีวิวเครื่องชงกาแฟแคปซูล ครั้งนี้ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานได้เช่นเดียวกันเชื่อว่าสาวกผู้หลงใหลในรสกาแฟย่อมต้องรู้จักอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับกาแฟถ้วยโปรดได้อย่างง่ายและสะดวกมากขึ้นอย่าง "เครื่องชงกาแฟแคปซูล" แน่นอน เครื่องชงกาแฟแคปซูลนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากเครื่องชงกาแฟแบบดั้งเดิม ที่เน้นให้คุณสามารถใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้นจากที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องมีขั้นตอนซับซ้อนมากมาย เพียงแค่หยิบกาแฟแคปซูลซึ่งผ่านการคั่วและบดมาเรียบร้อยแล้วลงไปในเครื่อง คุณก็จะได้กาแฟมาดื่มแบบทันใจเสมือนไปซื้อจากคาเฟ่หรือร้านกาแฟชื่อดังเลยทีเดียว
ทั้งนี้เครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นมีวางขายอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาค่อนข้างสูง เราจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อ ดังนั้นในบทความนี้ เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ถูกต้องเหมาะสมมาฝากกัน รวมไปถึง 10 อันดับ ยี่ห้อและรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมมาเป็นไอเดียให้คุณในการเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เหมาะสมกับทั้งเรื่องราคาและการใช้งานของคุณมากขึ้นค่ะ
สำหรับคอกาแฟทั้งหลายที่ไม่ชอบกาแฟสำเร็จรูปแบบผงและต้องการเต็มอิ่มกับกาแฟถ้วยโปรดเหมือนกับที่เคยดื่มตามร้านกาแฟ เครื่องชงกาแฟแคปซูลเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณมากขึ้น วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณใส่แคปซูลเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วและบดตามกระบวนการมาเรียบร้อยแล้วลงไปในเครื่อง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ดื่มด่ำกับกาแฟตามแบบที่คุณต้องการ สามารถชงได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟใส่นมที่เป็นลาเต้หรือคาปูชิโน่ได้ตามใจชอบเลย
เมล็ดกาแฟที่บรรจุอยู่ในแคปซูลนั้นจะถูกอัดแน่นด้วยสุญญากาศเพื่อควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ จึงไม่มีความยุ่งยากในขั้นตอนการชง ทั้งยังไม่ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ คุณก็สามารถอร่อยกับกาแฟเหมือนบาริสต้ามาชงให้ดื่มกันได้เลย ที่สำคัญกาแฟแคปซูลนั้นมีราคาที่ย่อมเยากว่ากาแฟตามร้านหลายเท่าตัว จึงถือได้ว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นเหมาะกับการใช้งานที่บ้านสำหรับคอกาแฟเป็นอย่างยิ่ง
ข้อดีอีกประการของเครื่องชงกาแฟแคปซูลก็คือ สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ไม่มีวิธีการซับซ้อน เพียงแค่ทิ้งถ้วยแคปซูลที่ใช้เสร็จแล้วก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องคอยเก็บกากกาแฟให้เป็นภาระ ดังนั้นใครที่กลัวว่าจะต้องล้างอุปกรณ์หลายชิ้นก็ไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ
ถัดไปเรามาดูกันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่คุณต้องศึกษาไว้ก่อนจะเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลสักเครื่องมาใช้งานที่บ้านกันค่ะ
เครื่องชงกาแฟแคปซูลสามารถแบ่งตามวิธีการสกัดกาแฟได้เป็น 2 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะให้กาแฟที่มีรสและกลิ่นที่ต่างกันออกไป
เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ใช้วิธีการสกัดแบบเอสเพรสโซ่ (Espresso) นั้นเป็นเครื่องพื้นฐานแต่สามารถชงกาแฟออกมาได้หลายรูปแบบ คุณสามารถอร่อยกับเอสเพรสโซ่ที่เต็มไปด้วยฟอง Crema หรือชั้นโฟมละเอียดที่ลอยอยู่ด้านบนคล้ายฟองอากาศเล็ก ๆ ตามแบบฉบับของเอสเพรสโซ่ที่ถูกสกัดด้วยแรงดันน้ำอย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟใส่นมก็ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะเค้ามีกาแฟแคปซูลแบบที่มีรสสัมผัสของนมลงไปด้วย คุณจึงสามารถดื่มด่ำกับกาแฟหลากหลายรสชาติได้อย่างสะดวกสบาย แต่ทั้งนี้ความหลากหลายของรสกาแฟก็แตกต่างกันไปในผู้ผลิตแต่ละเจ้า ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อ ขอแนะนำให้คุณลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าแต่ละยี่ห้อมีกาแฟแคปซูลรสใดให้เลือกบ้าง
สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Drip Pod นี้ ปัจจุบันมีเพียงบริษัท UCC เท่านั้นที่เป็นผู้ผลิต ซึ่งเครื่องชงกาแฟแบบนี้สามารถคำนวณอุณหภูมิของน้ำร้อนและเวลาในการไหลผ่านของน้ำร้อนได้อย่างเหมาะสม ทำให้สกัดได้รสและกลิ่นเฉพาะของเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดได้อย่างเต็มที่ เหมือนชงจากการดริปกาแฟด้วยมือของบาริสาต้ากันเลยทีเดียว
เครื่องชงกาแฟแคปซูลชนิดนี้จะไม่มีการใช้ผ้าหรือกระดาษกรอง ดังนั้นรสสัมผัสดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟจะคงอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ฉะนั้นคอกาแฟพันธุ์แท้สามารถสั่งซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Drip Pod มาติดบ้านเอาไว้ได้ ที่สำคัญ เครื่องนี้ยังสามารถใช้กับชาได้อีกด้วยค่ะ
ขนาดความจุของแท็งค์น้ำที่มากับเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นมีผลต่อปริมาณกาแฟที่จะชงออกมาได้ ฉะนั้นคุณควรจะต้องรู้ก่อนว่าจำนวนกาแฟที่คุณดื่มต่อวันนั้นมีกี่ถ้วย รวมไปถึงจำนวนคนที่ต้องการใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูลใน 1 ครัวเรือน
โดยปกติแล้วกาแฟที่คนทั่วไปดื่มต่อแก้ว คือ 120 มิลลิลิตร หากใครที่ดื่มกาแฟถึง 2 - 3 แก้วต่อวัน ก็ควรจะต้องมองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีขนาดความจุแท็งค์น้ำที่ 750 มิลลิลิตรขึ้นไป หรือใครที่มองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลสำหรับใช้งานในออฟฟิศก็ควรเลือกที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนพนักงานทุกคน หรือเลือกซื้อแท็งค์น้ำภายนอกมาติดตั้งเพิ่มเติม เป็นต้น
กาแฟแบบแคปซูลนั้นมีหลายรสชาติให้เลือกตามสไตล์ที่คุณถูกใจ ในขณะเดียวกันตัวเครื่องชงกาแฟแคปซูลก็มีหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจให้เลือกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสกัดด้วยความดันน้ำต่ำหรือสูง รวมไปถึงการควบคุมการทำงานของเครื่องผ่านสมาร์ตโฟน โดยคุณสามารถตรวจดูคุณลักษณะพิเศษของเครื่องผ่านเว็บไซต์หรือรีวิวต่าง ๆ ได้
หากคุณไม่ชอบกาแฟที่มีรสขมและอยากได้รสสัมผัสของฟองนมแท้ ๆ ก็ให้เลือกเครื่องที่มีแท็งค์ใส่นมโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องชงกาแฟชนิดนี้จะให้ฟองนมที่เนียนนุ่มกว่าฟองนมที่ได้จากตัวกาแฟแคปซูล หากใครที่เป็นสาย Vegan ก็สามารถประยุกต์โดยการใช้นมถั่วเหลืองแทนนมวัวก็ได้เช่นกัน
สำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกในครอบครัวไม่ดื่มกาแฟละก็ ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เครื่องชงกาแฟได้ไม่คุ้มค่านะคะ เพราะปัจจุบันนี้ทางผู้ผลิตได้ผลิตชาและโกโก้ในรูปแบบแคปซูลมาให้ได้ใช้กันอีกด้วย เรียกได้ว่า ซื้อเพียงเครื่องเดียวใช้งานกันทั้งครอบครัว คุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ ค่ะ
ปกติแล้วคุณสามารถหาซื้อกาแฟแคปซูลได้ตามห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านคุณหรือแม้กระทั่งบนเว็บออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตหลายเจ้าที่วางจำหน่ายเองผ่านเว็บขายสินค้าออนไลน์ต่าง ๆ ดังนั้นคุณควรเช็กให้ดีว่ากาแฟแคปซูลยี่ห้อที่คุณสนใจนั้นหาซื้อได้สะดวกหรือไม่ เพื่อที่คุณจะได้มีกาแฟแคปซูลไว้ใช้ชงได้ทันใจ
ปัจจุบันมีกาแฟแคปซูลยี่ห้อต่าง ๆ มากมาย เช่น Nespresso ดอยช้าง และอื่น ๆ ซึ่งราคาจะตกอยู่ที่ประมาณ 20 บาทต่อแคปซูล ดังนั้น คุณสามารถเลือกได้จากรสชาติกาแฟที่คุณชอบและราคาที่คุณสามารถซื้อได้อย่างต่อเนื่องค่ะ
เรื่องความสะดวกในการทำความสะอาดก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณา คุณควรเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่สามารถแยกชิ้นส่วนประกอบต่าง ๆ เพื่อมาทำความสะอาดด้วยน้ำได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะส่วนประกอบของแท็งค์ใส่น้ำหรือนมที่ควรหมั่นทำความสะอาดอย่างเป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดี
การรู้จักคาแรคเตอร์ของแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟแคปซูลก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องชงได้ถูกใจมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ดังที่ผลิตเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นจะมี Nestlé ที่มีชื่อเสียงมายาวนานในเรื่องของผู้ผลิตกาแฟ Nescafe ซึ่งเป็นกาแฟสำเร็จรูปรายใหญ่ระดับโลกอยู่แล้ว โดย Nestlé ได้ผลิตเครื่องชงกาแฟแคปซูลออกมา 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่เป็น Dolce Gusto และ Nespresso ซึ่งมีความแตกต่างในเรื่องของเมนูกาแฟที่สามารถชงออกมา รวมไปถึงคุณสมบัติการใช้งานเพิ่มเติมที่ต่างกันออกไป
ในขณะที่ UCC ก็เป็นแบรนด์กาแฟชื่อดังจากญี่ปุ่นซึ่งได้ผลิต Drip Pod มาเจาะตลาดกาแฟแคปซูลด้วยเช่นกัน แต่จะเน้นไปในกลุ่มของคอกาแฟพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบรสและกลิ่นเฉพาะของกาแฟแต่ละสายพันธุ์
หลังจากได้ทำความรู้จักกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลและวิธีการเลือกซื้อกันไปแล้ว ลำดับต่อไปเรามาดู 10 อันดับ เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เป็นที่นิยมของคอกาแฟกันต่อเลยดีกว่าค่ะ โดยเราได้ทำการเปรียบเทียบการใช้งานด้านต่าง ๆ และราคามาให้ผู้อ่านเรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญทุกเครื่องหาซื้อได้ง่าย ๆ ในร้านค้าออนไลน์ด้วยค่ะ ใครอยากเนรมิตบ้านให้เป็นคาเฟ่ ห้ามพลาดเลยนะคะ
เครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่มีแท็งค์ใส่นมพร้อมระบบทำฟองนม ทำให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยของกาแฟใส่นมอย่างแท้จริง ระบบทำฟองนมก็เป็นแบบ Single-Serve System ซึ่งช่วยให้ใช้นมในแท็งค์ได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย กาแฟแคปซูลที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้จะเป็นเกรด Premium ที่มีรสสัมผัสดีเยี่ยม แต่มีราคาค่อนข้างสูงทั้งตัวเครื่องและกาแฟแคปซูล แต่ข้อดีก็คือ คุณสามารถทานได้ทั้ง Espresso, Cappuccino หรือ Latte Macchiato ได้ในเครื่องเดียว
เครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้มีจุดเด่นที่ใช้แคปซูลแบบ iperEspresso Capsules ซึ่งสกัดกาแฟออกมาได้เหมือนกาแฟสดมีรสนุ่มนวลและเข้มข้นเหมือนเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีระบบทำฟองนมอัตโนมัติที่คุณสามารถใช้นมเย็นในการทำได้เลยและให้คุณกำหนดปริมาณนมสดได้ตามต้องการ แต่เครื่องชงตัวนี้ใช้ได้กับเฉพาะ iperEspresso Capsules เท่านั้นซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูงและหาซื้อยากค่ะ
เครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นนี้ถือว่ามีคุณสมบัติการทำงานพื้นฐานในระดับราคาที่ไม่แพงเกินไป สามารถชงกาแฟเอสเพรสโซ่ที่มีฟอง Crema ออกมาได้สวยงาม มีความพิเศษที่สามารถเลือกการชงได้ถึง 9 ระดับ และคุณกำหนดระดับน้ำได้ด้วยตัวเอง ทำให้คุณได้อร่อยกับกาแฟตามปริมาณที่คุณต้องการ สามารถแยกชิ้นส่วนทำความสะอาดได้ง่าย จัดเป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้ และยังมีขนาดกะทัดรัดจัดวางได้ง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ในบ้านด้วยค่ะ
เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ขนาดเครื่องเล็กกะทัดรัด จึงเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถทำงานได้เทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ เครื่องชงกาแฟตัวนี้ยังสามารถใช้งานได้กับกาแฟแคปซูลหลากหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นจาก Nescafe หรือ Starbucks ให้คุณได้อร่อยกับเครื่องดื่มหลากหลายได้ถึง 13 เมนู นอกจากนี้ ยังสามารถแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อทำความสะอาดได้ง่ายด้วยค่ะ
เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้มาในขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบากว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลทั่วไป แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานดีเยี่ยมและมีเสถียรภาพ สามารถสกัดกาแฟได้ออกมามีรสชาติและกลิ่นหอมเข้มข้นเท่ากันทุกแก้ว โดยทางผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้ก็เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเมล็ดกาแฟรายใหญ่ของไทย จึงมีตัวเลือกกาแฟแคปซูลที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีระบบประหยัดพลังงานจึงใช้งานได้อย่างสบายใจ ดื่มวันละหลายแก้วได้โดยไม่ทำให้ค่าไฟของคุณพุ่งสูงขึ้นด้วยค่ะ
เครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้มีความพิเศษที่ตัวระบบสามารถชงได้ทั้งกาแฟแบบ Espresso ที่เน้นความรวดเร็วได้ช็อตกาแฟที่มีปริมาณน้อยแต่รสขมเข้มข้น ในขณะที่ Lungo จะเน้นให้น้ำไหลผ่านกาแฟแคปซูลนานมากขึ้นเพื่อถึงรสนุ่มนวลของกาแฟออกมาด้วย จึงเป็นเครื่องชงกาแฟที่คอกาแฟดำทั้งหลายไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีขนาดกะทัดรัดแต่ประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีไม่แพ้เครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่เลยค่ะ
เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้มีจุดเด่นหลายข้อ โดยเริ่มจากดีไซน์สวยเก๋ การันตีด้วยรางวัลระดับโลกช่วยเพิ่มความโมเดิร์นให้กับบ้านหรือออฟฟิศของคุณได้ อีกทั้งมีขนาดเล็กกะทัดรัดจึงไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ใช้สอย คุณภาพของกาแฟแคปซูลที่ใช้กับเครื่องนี้ก็ดีเทียบเท่ากับกาแฟสดจากร้านดังต่าง ๆ ได้เลยทีเดียว สามารถชงได้ทั้ง Espresso และ Lungo นอกจากนี้ตัวถาดรองยังสามารถพับเพื่อชงกาแฟ Latte Macchiato ได้อีกด้วย
เครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้มีไฮไลท์อยู่ตรงที่ดีไซน์ของเครื่อง มีรูปลักษณ์แบบโมเดิร์นที่สามารถเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านหรือออฟฟิศของคุณได้ สามารถสกัดกาแฟออกมาในปริมาณมากในขณะที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ตัวฐานรองแก้วกาแฟสามารถปรับความสูงได้ถึง 4 ระดับ ดังนั้นจึงใช้งานได้กับแก้วหลายขนาด เครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้ยังมีตัวเลือกกาแฟแคปซูลให้ใช้หลากหลาย หาซื้อได้ง่ายและราคาไม่สูงอีกด้วยค่ะ
สำหรับคนที่มองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟตัวท็อป รับรองได้ว่าเครื่องชงตัวนี้จะตอบโจทย์ของคุณแน่นอน เพราะตัวเครื่องมีแรงดันน้ำในระดับ 19 Bar แต่ราคานั้นถูกกว่าเครื่องชงกาแฟที่มีคุณสมบัติคล้ายกันถึงเกือบเท่าตัว นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อม Adaptor ที่ช่วยให้คุณสกัดกาแฟได้จากทั้งกาแฟแคปซูลของ Nespresso หรือ Dolce Gusto รวมทั้งยังใช้กับกาแฟบดทั่วไปได้อีกด้วย
เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะมีดีไซน์ของเครื่องที่โดดเด่นในโทนสีชมพูทอง จึงสามารถใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งให้สถานที่ของคุณได้อีกด้วย ตัวเครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่สามารถสกัดกาแฟได้ฟอง Crema ดีเยี่ยม รวมทั้งยังใช้กับกาแฟแคปซูลได้หลากหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นจาก Dolce Gusto หรือ Starbucks มีตัวเลือกเมนูให้คุณเลือกอย่างหลากหลายสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลเพราะปัจจุบันนี้ทาง Nestlé ได้จัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับกาแฟแคปซูล คือ แพ็กเก็จรายเดือน โดยที่คุณสั่งซื้อกาแฟแคปซูลตามปริมาณที่ทางแบรนด์ได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งแพ็กเก็จที่มีราคาถูกที่สุดของแบรนด์จะอยู่ที่ สั่งซื้อกาแฟแคปซูลขั้นต่ำ 3 กล่องต่อเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป ก็รับเครื่องชงกาแฟแคปซูลไปฟรีได้เลยโดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถือได้ว่าคุ้มค่าและประหยัดมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการมองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลเอาไว้ใช้ในครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกมากและในสำนักงานต่าง ๆ อีกด้วย ถ้ายังไงก็ลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะคะ ว่าแต่ละผู้ผลิตมีแพ็กเก็จรายเดือนอย่างไรกันบ้าง
การดื่มกาแฟนั้นเรียกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของใครหลายคน ซึ่งวิธีการดื่มกาแฟในปัจจุบันก็มีให้เลือกกันมากมาย โดยการดื่มกาแฟจากเครื่องชงกาแฟแคปซูลก็เป็นหนึ่งในวิธีเหล่านั้น ซึ่งเราก็หวังว่าบทความในวันนี้จะช่วยให้คุณได้เห็นว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณจากการใช้เครื่องชงกาแฟแบบเดิม ๆ อย่างไรและมีข้อดีที่แตกต่างจากการซื้อดื่มจากร้านกาแฟทั่วไปอย่างไร หากใครที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อก็หวังว่าวันนี้เราจะช่วยให้คุณได้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
กาแฟนั้นมีข้อดีมากมายไม่ว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกตื่นตัวในระหว่างวัน หรือเพิ่มการเผาผลาญให้กับร่างกาย แต่การดื่มกาแฟก็ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรบริโภคมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ร่างกายของคุณเกิดการสะสมคาเฟอีนที่มากเกินทำให้กลายเป็นความเครียดสะสมในร่างกายและอาการนอนไม่หลับตามมาได้
ปัจจุบันมีเครื่องต้มไข่หลากหลายประเภทให้เลือก หลายคนที่ยังไม่เคยซื้อใช้งาน อาจจะยังงง ๆ อยู่ว่าควรซื้อแบบไหนและมีวิธีการเลือกอย่างไรบ้าง ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการพิจารณาเครื่องต้มไข่ให้คุณรู้ว่าต้องเลือกจากอะไรบ้าง และเรายังมีผลิตภัณฑ์ที่ขายดีทางเว็บไซต์ออนไลน์มาเป็นทางเลือกให้คุณอีกด้วยค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปบ้างแล้วว่า ปัจจุบันมีเครื่องต้มไข่หลายรูปแบบมากมายให้เลือก ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีฟังก์ชันเฉพาะตัวต่างกันไป ใครที่ยังกลุ้มใจกับการตัดสินใจและตาลายเลือกไม่ถูกอยู่ วันนี้เรามาเป็นผู้ช่วยให้คุณแล้วค่ะ ขั้นแรกมาดูกันดีกว่าว่า การจะซื้อเครื่องต้มไข่สักอันเราควรพิจารณาอะไรกันบ้างเอ่ย
ใครเป็นสายชอบความมุ้งมิ้งต้องทางนี้เลย เครื่องต้มไข่ที่มีดีไซน์เป็นรูปไก่น่ารักสุด ๆ สามารถต้มไข่ได้สูงสุดถึง 7 ฟองต่อครั้ง นอกจากจะใช้ทำเมนูไข่ได้หลายแบบทั้งไข่ลวกและไข่ต้ม ยังสามารถนำมานึ่งหรืออุ่นอาหารได้ด้วย การใช้งานก็ง่าย มีปุ่มเปิดปิดและมีไฟแสดงขณะเครื่องทำงาน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังได้รับใบรับรองด้านความปลอดภัยจาก CE (ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป) อีกด้วย
เครื่องต้มไข่ไฟฟ้าจาก Cocoru ที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด ง่ายต่อการใช้งาน และยังประหยัดพื้นที่ใช้สอยในห้องครัวด้วย ใช้วัสดุแผ่นความร้อนที่ทำมาจากสแตนเลสสตีลแบบฝังตรงกลางช่วยให้ความร้อนทั่วถึง ทำให้การนึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถต้มไข่ได้สูงสุดครั้งละ 6 ฟอง ทั้งยังสามารถตั้งเวลาในการนึ่งได้สูงสุดนาน 20 นาที คุณแม่ลูกเล็กหลายคนนำมาใช้นึ่งจุกนมเด็กให้ลูกด้วยค่ะ
เครื่องต้มไข่ไฟฟ้าแสนน่ารักอีกรุ่นจาก Fry King ที่มีดีไซน์แบบเก๋ ๆ เป็นรูปทรงกระทะไม่เหมือนใครที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำอาหารเช้าให้คุณได้ด้วยการต้มหรือลวกไข่เพียงแค่ 5 นาที และพิเศษไปกว่านั้น คือ ถาดต้มไข่สามารถถอดเปลี่ยนได้ จึงสามารถนำมาทอดไข่ดาวหรือไข่เจียวได้เมื่อคุณต้องการ สามารถจุไข่ได้สูงสุด 5 ฟองและเมื่อน้ำแห้งเครื่องจะตัดการทำงานอัตโนมัติ สะดวกต่อการใช้งานอย่างยิ่งค่ะ
อีกหนึ่งผู้ช่วยที่ให้คุณสร้างสรรค์เมนูไข่ได้อย่างอิสระ เครื่องต้มไข่สีสันสดใสจาก Sonar ผลิตจากสเตนเลสและพลาสติกคุณภาพดี สามารถต้มไข่ได้สูงสุด 7 ฟอง และนอกจากจะให้คุณต้มหรือลวกไข่ได้อย่างสะดวกและง่ายดายแล้ว ยังสามารถทำอาหารได้อีกหลายประเภท เช่น ต้ม ตุ๋น นึ่ง ใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อการใช้งาน ใช้แผ่นความร้อนที่ทำจากสแตนเลสจึงร้อนเร็ว ปลอดภัยด้วยระบบป้องกันอัตโนมัติที่ไฟจะตัดทันทีเมื่อไข่ต้มสุกแล้ว
เครื่องต้มไข่อีกรุ่นที่เป็นที่นิยมจากประเทศเยอรมนี ช่วยให้คุณทำเมนูไข่ลวก ไข่ต้มยางมะตูม หรือไข่ต้มแข็งได้อย่างง่ายดาย ตัวเครื่องทำจากพลาสติกอย่างดีและถาดรองให้ความร้อนที่เคลือบสารกันติด (non-stick) จึงเช็ดคราบตะกรันออกได้ง่าย พร้อมด้วยไฟ LED แสดงสถานะขณะใช้งาน และมีสัญญาณเตือนเมื่อไข่สุก สามารถต้มไข่ได้สูงสุดถึง 6 ฟอง นอกจากนี้ชาวเน็ตผู้ใช้งานยังรับรองว่ารุ่นนี้ประหยัดไฟด้วยค่ะ ใช้งานสะดวกและคุ้มค่าจริง ๆ
เครื่องต้มไข่แบบมัลติฟังก์ชันที่จะช่วยให้การทำอาหารของคุณง่ายขึ้นกว่าที่เคย นอกจากจะให้คุณอร่อยกับเมนูไข่ ทั้งไข่ต้ม ไข่ลวก ยังสามารถนำมาประกอบอาหารประเภทอื่นได้อีกด้วยทั้งนึ่ง ตุ๋นและอุ่นอาหาร เช่น นึ่งข้าวโพด ซาลาเปา หรือไข่ตุ๋น สามารถต้มไข่ได้สูงสุด 6 ฟองต่อครั้ง ใช้งานง่าย เพียงแค่เติมน้ำในปริมาณที่เหมาะสมแล้วกดสวิตซ์ แถมยังทำความสะอาดง่ายและยังมีดีไซน์ทันสมัย ราคาก็คุ้มสุดคุ้มน่าสนใจมากเลยทีเดียว
หากใครที่ทำธุรกิจอาหารหรืออาศัยอยู่ในครอบครัวใหญ่ และต้องการต้มไข่ในปริมาณเยอะต่อครั้ง เพื่อความสะดวกรวดเร็วกับคุณเราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เครื่องต้มไข่ไฟฟ้าแบบ 3 ชั้น ที่สามารถต้มไข่ได้สูงสุดถึง 24 ฟองต่อครั้ง ใช้วัสดุสแตนเลสและพลาสติกคุณภาพดี สามารถนึ่งหรืออุ่นอาหารประเภทอื่น ๆ ได้พร้อมกับต้มไข่ไปด้วยในเวลาเดียวกัน ตั้งเวลาได้สูงสุด 40 นาที เนื่องจากมีขนาดใหญ่จึงอาจไม่สะดวกต่อการใช้งานและการจัดเก็บสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัดเท่าไหร่นัก
หากใครที่ทำธุรกิจอาหารหรืออาศัยอยู่ในครอบครัวใหญ่ และต้องการต้มไข่ในปริมาณเยอะต่อครั้ง เพื่อความสะดวกรวดเร็วกับคุณเราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เครื่องต้มไข่ไฟฟ้าแบบ 3 ชั้น ที่สามารถต้มไข่ได้สูงสุดถึง 24 ฟองต่อครั้ง ใช้วัสดุสแตนเลสและพลาสติกคุณภาพดี สามารถนึ่งหรืออุ่นอาหารประเภทอื่น ๆ ได้พร้อมกับต้มไข่ไปด้วยในเวลาเดียวกัน ตั้งเวลาได้สูงสุด 40 นาที เนื่องจากมีขนาดใหญ่จึงอาจไม่สะดวกต่อการใช้งานและการ
สำหรับใครที่มีสมาชิกครอบครัวในบ้านเยอะ ต้องการต้มไข่ที่ละหลายฟองเพื่ออิ่มท้องไปพร้อมกัน เราขอแนะนำรุ่นนี้เลย เครื่องต้มไข่แบบ 2 ชั้นที่สามารถต้มไข่ได้สูงสุดถึง 14 ฟองต่อครั้ง หรือถ้าจะต้มไข่เพียงชั้นเดียวก็สามารถใช้นึ่งหรืออุ่นอาหารอื่น ๆ ไปพร้อมกันได้ ตัวเครื่องมีการกระจายความร้อน 360 องศาแบบ Streaming ทำให้กระจายความร้อนได้ทั่วทั้งตัวเครื่อง และมีถาดรองเป็นสแตนเลสอย่างดี ทนความร้อนสูง สามารถตั้งเวลาได้สูงสุด 30 นาที และมีระบบป้องกันน้ำแห้งซึ่งเครื่องจะตัดไฟอัตโนมัติ สะดวกและปลอดภัยต่อการใช้งานมากค่ะ
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ชาวเน็ตซื้อไปต้มไข่กันมากมาย เครื่องต้มไข่ที่มีถาดสำหรับวางไข่ 2 ชั้น จึงรองรับการต้มไข่ได้มากถึง 12 ฟอง นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการนึ่ง อุ่นอาหารประเภทอื่น ๆ ได้ เช่น ซาลาเปา กับข้าว จึงสามารถต้มไข่พร้อมอุ่นอาหารอย่างอื่นไปได้ในเวลาเดียวกัน ตัวเครื่องมีการกระจายความร้อน 360 องศาแบบ Streaming ทำให้กระจายความร้อนได้ทั่วทั้งตัวเครื่อง ตัวเครื่องทำจากพลาสติกมีน้ำหนักเบา ขนาดกระทัดรัด นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้อุ่นฆ่าเชื้อโรคขวดนมเด็กอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ
มาถึงตรงนี้ หวังว่าผู้อ่านหลายคนคงเลือกเครื่องต้มไข่ไว้ในใจกันบ้างแล้ว หากใครยังตัดสินใจไม่ได้เพราะถูกใจหลายเครื่องเลยและยังรักพี่เสียดายน้องอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ใช้เวลาศึกษาเพิ่มอีกหน่อยเพื่อให้ได้เครื่องต้มไข่ที่มีประสิทธิภาพต่อการใช้งานมากที่สุด อย่าลืมว่าดีไซน์หรือยี่ห้อนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ปัจจัยหลักคือเลือกเครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งานที่คุณต้องการ ทั้งขนาด ฟังก์ชัน ความสะดวกในใช้งานและการจัดเก็บ เพียงเท่านี้คุณก็จะเครื่องต้มไข่ที่ดีที่สุดไปเติมเต็มความสุขในมื้ออาหารให้ตัวคุณเองและทุกคนในครอบครัวค่ะ
พ่อบ้านแม่บ้านคนไหนที่กำลังมองหากิจกรรมยามว่างในช่วงเวลาที่ต้องพักผ่อนอยู่บ้านแบบนี้ การมี "เครื่องทำเครป" สักเครื่องติดบ้านไว้ก็คงจะช่วยแก้เบื่อได้ดีทีเดียว เพราะนอกจากเจ้าเครื่องนี้จะสามารถทำเครปได้ง่ายดายและน่ารับประทานแล้ว ยังนำไปประยุกต์ทำแพนเค้กหรือโอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) ได้อีกด้วย
แต่จะว่าไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นเครื่องใช้ในครัวที่ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่รู้หรือไม่คะว่า องค์ประกอบบางอย่างของเครื่องทำเครปก็ส่งผลต่อหน้าตาและความน่าทานของเครปได้ด้วย ดังนั้น ทางทีมงานจึงไม่พลาดที่จะพาผู้อ่านไปเจาะลึกเทคนิคการเลือกเครื่องทำเครปที่ถูกใจ แถมด้วย 10 อันดับเครื่องทำเครปยอดฮิตที่ต้องบอกต่อให้ทุกคนได้เลือกซื้อมาไว้ติดบ้านกัน เพราะถ้าอยู่บ้านมันเหงา เราก็มาหาอะไรสนุก ๆ ทำกันดีกว่าค่ะ !
อย่างที่บอกไปในช่วงแรกว่า หากดูเผิน ๆ เครื่องทำเครปของผู้ผลิตแทบทุกรายจะมีหน้าตาที่คล้ายกันไปหมด แล้วจะเลือกเครื่องทำเครปที่ถูกใจเราได้อย่างไรล่ะ ? เพื่อหาคำตอบของโจทย์นี้ รีบไปดูวิธีการเลือกกันเลยค่ะ
ข้อแรกคือประเภทเครื่องทำเครป ซึ่งส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ “แบบเตา” และ “แบบพกพา” ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้ ถือว่ามีผลต่อลักษณะของเครปและต้องเลือกใช้ให้ตรงกับสูตรต่าง ๆ รวมถึงวิธีการใช้งานก็ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น คุณควรเลือกประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานด้วยนะคะ
สำหรับใครที่ต้องการจะทำเครปเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ขอแนะนำเครื่องทำเครปประเภท "เตา" เลยค่ะ เนื่องจากเครื่องประเภทนี้สามารถปรับระดับความร้อนให้สูงขึ้นได้เพราะใช้ร่วมกับแก๊ส จึงทำให้ความร้อนกระจายตามจุดต่าง ๆ บนเตาซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำเครปขนาดใหญ่ทานแล้ว ยังเหมาะกับการนำไปทำเครปขายเป็นอาชีพเสริมด้วยค่ะ
แต่ข้อควรระวังจากการกระจายความร้อนได้อย่างรวดเร็วนั้นก็คือ การเทแป้งในแต่ละครั้ง แป้งจะสุกและกรอบเร็วมาก ทำให้จำเป็นจะต้องใช้ความชำนาญในการเกลี่ยแป้งให้หนาสม่ำเสมอกัน ดังนั้น หากคุณเพิ่งเริ่มทำในช่วงแรก ๆ อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับการวนแป้งไประยะหนึ่งก่อน นอกจากนี้ เครื่องประเภทนี้มักมีขนาดใหญ่ คุณจึงควรเช็กให้ดีก่อนว่ามีพื้นที่จัดเก็บหรือไม่ค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่ความสุขเล็ก ๆ สำหรับการทำขนม เราแนะนำให้เลือก “เครื่องทำเครปแบบพกพา” เพื่อช่วยให้การทำเครปมีความสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งประเภทนี้เหมาะสมกับมือใหม่อย่างยิ่ง โดยลักษณะเครื่องจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบที่ใช้แก๊สหรือกระทะ และแบบที่ใช้ไฟฟ้าค่ะ
แบบกระทะนั้นจะมีข้อเสีย คือ ความร้อนมักจะกระจายไม่ทั่วถึง ทำให้แป้งสุกไม่เท่ากัน รวมถึงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางส่วนใหญ่จะค่อนข้างเล็ก จึงต้องมีด้ามจับที่ผู้ใช้งานต้องถืออยู่ตลอดเวลา คุณจึงต้องระมัดระวังอันตรายระหว่างการใช้ด้วย นอกจากนี้ แม้ว่าแบบไฟฟ้าหลายรุ่นจะสามารถปรับอุณหภูมิได้ แต่บางครั้งความร้อนก็อาจกระจายไม่ทั่วถึง และส่วนใหญ่มักมีการเคลือบผิวหน้าเตา ทำให้เนื้อแป้งจะไม่ค่อยติด ส่งผลให้ในขณะเกลี่ยแป้งเครปนั้น เนื้อเครปก็จะเสียรูปง่ายได้ขึ้นด้วย
จะเห็นได้ว่า รูปแบบเหล่านี้ถึงแม้จะมีข้อดี คือ พกพาได้สะดวก แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังขณะใช้งานอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องทำเครปแบบพกพาจึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากใช้ทำทานเองหรือใช้ทำทานภายในครอบครัวเป็นหลักนั่นเองค่ะ
หากคุณต้องการทำเครปขนาดเดียวกับที่ขายทั่วไปในร้านค้า แนะนำให้ใช้เครื่องทำเครปที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 cm ขึ้นไป เพราะคุณสามารถใส่ท็อปปิ้งและแต่งหน้าเครปได้ตามใจชอบ รวมถึงการที่แป้งเครปมีขนาดใหญ่ ทำให้พับหรือม้วนเครปได้ง่ายดายอีกด้วย
แต่ยิ่งเส้นผ่านศูนย์กลางมีขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ไม้พายสำหรับเกลี่ยแป้งก็จะต้องมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย เพราะจะต้องเกลี่ยแป้งให้สม่ำเสมออย่างเร็วที่สุดก่อนที่แป้งจะเริ่มสุก อย่างไรก็ตาม หากคุณเน้นเรื่องความสะดวก หรืออยากจะทำเครปกันสนุก ๆ ภายในครอบครัว เราขอแนะนำเลือกให้ขนาดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 cm เพราะจะช่วยให้คุณทำเครปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้นค่ะ
อีกหนึ่งข้อสำคัญที่หลายคนมักจะใช้เป็นตัวเลือกในการซื้อเครื่องทำเครป คือ ฟังก์ชันการปรับอุณหภูมิ หรืออุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่อง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดที่บอกได้ว่า เครื่องทำเครปแต่ละเครื่องนั้นเหมาะกับเครปแบบไหนบ้าง เช่น ถ้าเป็นเครื่องที่มีอุณภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูง หมายถึง แป้งเครปที่ได้จะกรอบเร็วขึ้น หรือหากเป็นอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก ก็จะได้แป้งเครปที่นิ่มขึ้น ซึ่งเหมาะกับการทำเครปเค้ก เป็นต้น
โดยประโยชน์ของฟังก์ชันการปรับอุณหภูมินั้น นอกจากจะควบคุมระดับความร้อนได้ง่ายแล้ว ยังสามารถรังสรรค์เมนูอร่อยได้หลากหลาก เช่น แพนเค้ก, โอโคโนมิยากิ, บ้าบิ่น, พิซซ่า หรือแม้แต่การปิ้งย่างค่ะ
มาถึงส่วนประกอบสำคัญอีกหนึ่งอย่างกันบ้าง นั่นก็คือ วัสดุที่ใช้ทำแผ่นเตา ซึ่งตรงนี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยนำและกระจายความร้อนไปยังแป้งเครป อีกทั้งยังส่งผลต่อราคาและความทนทานอีกด้วย โดยวัสดุที่ใช้ทำแผ่นเตานั้นจะมี 2 ประเภท คือ อะลูมิเนียมอัลลอย และสเตนเลสสตีลค่ะ
เมื่อพูดถึงอะลูมิเนียมอัลลอย (Aluminum Alloys) แน่นอนว่าข้อดีที่โดดเด่น คือ การนำความร้อนได้ดีเยี่ยม มีน้ำหนักเบา จึงเป็นวัสดุที่เหมาะกับการนำไปทำกระทะเคลือบ เทฟลอน (Teflon) เพราะหยิบจับได้ง่ายและไม่หนักมือ แต่ในทางกลับกัน วัสดุประเภทนี้ก็มีข้อเสีย คือ ไม่ค่อยมีความทนทานมากนักและทำให้ต้องซื้อเปลี่ยนบ่อย ๆ หากใช้เป็นประจำหรือต้องการใช้ในระยะยาวค่ะ
หากคุณต้องการวัสดุที่มีความแข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน ทนทานต่อการกัดกร่อน ต้องยกให้ สเตนเลสสตีล (Stainless Steel) หรือเหล็กกล้าไร้สนิมเลยค่ะ นอกจากมีความทนทานสูงแล้ว สเตนเลสสตีลยังสามารถนำความร้อนได้ดีด้วยเช่นกัน จึงทำให้แป้งเครปกรอบขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ทว่าคุณสมบัติที่ดีเหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมราคาที่สูงพอสมควร ดังนั้น หากใครที่ต้องการใช้งานเป็นครั้งคราว แนะนำให้เลือกแบบอะลูมิเนียมอัลลอยก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ
เมื่อเรามีเครื่องทำเครปกันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ อุปกรณ์ผู้ช่วยต่าง ๆ ตามความถนัด เช่น ไม้พาย ที่แซะ หรือไม้ปาดหน้าเครป โดยสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในทันทีที่คุณหยอดแป้งเครปลงบนหน้าเตา ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่มักจะแถมอุปกรณ์เหล่านี้มากับตัวเครื่องอยู่แล้วค่ะ
แต่ถ้าหากไม่มีแถมมาให้ คุณก็สามารถไปเลือกซื้อมาใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะมีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ ซึ่งบางกรณีก็อาจไม่จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยปาด เช่น ผู้ที่ใช้เครื่องทำเครปแบบกระทะ แต่อาจต้องใช้ทักษะในการร่อนแป้งบนกระทะแทนค่ะ
และแล้วก็มาถึง 10 อันดับเครื่องทำเครปยอดนิยม ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้มากมาย ซึ่งทั้ง 10 อันดับต่อไปนี้จะช่วยให้คุณได้ทำเมนูเครปที่น่าทานและเพิ่มความสนุกสนานของช่วงเวลาในการทำอาหารของเราได้มากขึ้น จะมียี่ห้อไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
เริ่มด้วยเตาทำเครปขนาดใหญ่รุ่นนี้กันก่อนเลยค่ะ ทั้งจุใจและทนทานสุด ๆ เพราะใช้แผ่นสเตนเลสที่มีความหนาถึง 8 mm พร้อมติดตั้งหัวแก๊สแรงดันต่ำแบบ C30 ซึ่งเปิด-ปิดได้ง่ายด้วยการหมุนพวงมาลัยและสามารถถอดเปลี่ยนได้ แถมชุดเปิด-ปิดนี้ยังทำมาจากทองเหลืองแท้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจุดเตาทิ้งไว้นาน หากไม่มีการใช้งาน เพราะความร้อนสะสมจะทำให้หน้าเตาโก่งตัวจนเสียรูปได้และควรหลีกเลี่ยงการใช้ในบริเวณที่มีลมแรงค่ะ
เอาใจคนที่ชอบเครปแผ่นใหญ่กันด้วยเครื่องทำเครปรุ่นนี้เลย เพราะมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ถึง 40 cm ตามด้วยปุ่มหมุนปรับอุณหภูมิที่ปลั๊กเสียบได้ถึง 5 ระดับ แผ่นเตาเป็นวัสดุที่เคลือบด้หลายชั้น ได้แก่ วัสดุเคลือบกันติด, ผงเพชร, คริสตัล เป็นต้น รับรองเลยว่า เครปหรือเมนูอื่น ๆ ที่คุณทำนั้นจะไม่ติดกระทะอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีควันน้อย และทำความสะอาดได้ง่าย แต่เนื่องจากกำลังไฟที่สูงถึง 1,300W จึงอาจะต้องคำนึงถึงเรื่องค่าไฟด้วยค่ะ
สำหรับเครื่องทำเครปรุ่นนี้ มีจุดเด่นที่กำลังไฟ 900W ซึ่งกระจายความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยทำให้แป้งเครปสุกได้เร็วมากขึ้น ภายใน 20 วินาทีเท่านั้น ! หน้าตัวเคลือบผิวด้วย เทฟลอน คุณภาพ ช่วยกันน้ำและทำให้อาหารไม่ติดค้างบนผิวเครื่อง ด้ามจับทำจากพลาสติกกันลื่น และมีปุ่มควบคุมการเปิด-ปิด อย่างไรก็ตาม การเทแป้งต้องอาศัยความชำนาญและความรวดเร็ว เพราะหากทำช้าก็จะทำให้เนื้อแป้งไม่สม่ำเสมอหรือสุกไม่เท่ากันได้ค่ะ
เติมเต็มความสนุกสนานในการทำเครปด้วยกระทะสีชมพูสุดสดใส ที่มีการเคลือบผิวลื่น (แบบ Non-Stick) ซึ่งช่วยทำให้เครปไม่ติดกระทะ ล้างทำความสะอาดได้ง่าย และประยุกต์ใช้ทำเมนูอื่นได้อย่างหลากหลาย โดยรุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งเตาแก๊ส, เตาขดลวดไฟฟ้า, ฮีตเตอร์ และเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ด้ามจับหุ้มด้วยพลาสติกซึ่งช่วยป้องกันการนำความร้อนได้ดี รวมถึงมีการเชื่อมด้ามที่แน่นหนาแข็งแรง ทำให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นด้วยค่ะ
กระทะก้นแบนจาก SARA รุ่นนี้ นอกจากจะมีความหนาพิเศษแล้ว ยังเคลือบด้วยหินอ่อนถึง 6 ชั้น ซึ่งทำให้หน้ากระทะทนทานต่อรอยขีดข่วน แม้จะนำความร้อนได้ค่อนข้างช้า แต่กระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ด้ามจับยาว 18 cm ทำจากพลาสติก Bakelite ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนสูงได้ดีและเป็นฉนวนไฟฟ้า นอกจากนี้ ก้นกระทะยังเสริมด้วยวัสดุพิเศษ ทำให้รองรับการใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้และใช้ทำเมนูคาวหวานได้หลากหลายทีเดียวค่ะ
กระทะไฟฟ้าของ SKG รุ่นนี้ จะช่วยให้การทำเครปของคุณง่ายขึ้นไปอีกขั้น เพราะมีปุ่ม on/off ช่วยควบคุมการเปิด-ปิดกระทะ เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย มีกำลังไฟสม่ำเสมออยู่ที่ 800W สามารถทำได้ทั้งเครปร้อนและเครปเย็น หน้ากระทะเคลือบด้วย เทฟลอน ทำให้เครปไม่ติดและช่วยให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย หรือจะเปลี่ยนไปใช้ทำเมนูอื่น ๆ อย่างการทอดไข่ดาวสำหรับมื้อเช้าก็ได้เช่นกันค่ะ
เครื่องทำเครปคุณภาพดีจากสเปนรุ่นนี้ ใช้กำลังไฟ 1,000W โดยสามารถปรับอุณหภูมิได้ 5 ระดับ กระจายความร้อนได้ทั่วถึงทุกจุด ทำความร้อนได้สูงสุดที่ 200 องศา หน้าเตาเคลือบผิวลื่นด้วย เทฟลอน ทำให้เครปไม่ไหม้ติดเตา ไม่ว่าจะเครปแบบกรอบ เครปเย็น หรือแพนเค้กก็ได้ ที่สำคัญ คือ ถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีปุ่ม on/off ควบคุมการเปิด-ปิด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อลืมถอดปลั๊กอีกด้วยค่ะ
กระทะรุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกระทะทำเครปคุณภาพเลยก็ว่าได้ เพราะผลิตจากอะลูมิเนียมหนา 2.5 mm เคลือบผิวลื่นความปลอดภัยสูงด้วย เทฟลอน 3 ชั้น มาตรฐานสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระจายความร้อนได้เร็ว ง่ายต่อการล้างทำความสะอาด ด้ามจับทำจากสเตนเลสกันความร้อนพิเศษ ยึดด้วยหมุดย้ำแบบริเวท (Rivet) ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน อย่างไรก็ตาม กระทะรุ่นนี้สามารถใช้ได้กับเตาทุกชนิด ยกเว้นเตาแม่เหล็กไฟฟ้านะคะ
มาที่รุ่นยอดฮิตได้รับการบอกต่อกันบ้าง กับเครื่องทำเครปของ CASIKO ที่มีกำลังไฟสูงถึง 1,200W สามารถกระจายความร้อนได้เร็วอย่างทั่วถึง หน้าเตาเคลือบด้วย เทฟลอน ช่วยไม่ให้เครปติดเตา มีปุ่มควบคุมการเปิด-ปิดและหมุนปรับความร้อนได้ในตัว พร้อมไฟแสดงการทำงาน ใต้เครื่องมีช่องสำหรับเก็บสายไฟอัตโนมัติ แต่มีข้อเสีย คือ สายไฟค่อนข้างสั้น ทำให้จะต้องหาพื้นที่จัดวางเตาให้ใกล้ปลั๊กไฟที่สุด และใช้งานต่อเนื่องได้ไม่เกิน 2 ชม. ค่ะ
เครื่องทำเครปยอดฮิตรุ่นนี้ มีหน้าเตาเคลือบด้วย Non-Stick สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ใช้กำลังไฟ 920W ซึ่งได้รับการการันตีว่า กระจายความร้อนได้เร็วและทั่วถึงทุกจุด โดยเครป 1 แผ่นใช้เวลาทำเพียง 3-5 นาทีเท่านั้น ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด พกพาไปใช้นอกสถานที่ได้สบายมาก มีสวิตช์เปิด-ปิดที่หมุนปรับความร้อนได้ พร้อมสัญญาณไฟแสดงการทำงานและมีช่องเก็บสายไฟใต้เครื่องด้วย นอกจากจะนำไปทำเครปกรอบ เครปเย็น หรือแพนเค้กได้แล้ว ยังสามารถใช้ทำทองม้วน ขนมเบื้องและเมนูอื่น ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
รู้หรือไม่ว่า นอกจากเครื่องทำเครปจะสามารถรังสรรค์เมนูเครปคาวหวานได้ตามใจเราแล้ว ยังนำไปใช้ประโยชน์ในการทำเมนูอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น แพนเค้ก โอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่า เพราะความร้อนที่เตาส่วนใหญ่ทำได้นั้น อยู่ในระดับเดียวกันกับการอบขนมนั่นเองค่ะ
และนอกจากขนมหรือเมนูที่เกี่ยวกับแป้งแล้ว การนำเครื่องทำเครปไปใช้กับเมนูอาหารคาว ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันอีกด้วย โดยส่วนใหญ่จะนิยมนำเตาเครปที่มีหน้ากว้างมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะนำไปทำสุกี้ ปิ้งย่าง หรือแม้แต่การย่างเนื้อสัตว์และเบคอน เรียกได้ว่าซื้อเพียงครั้งเดียวแต่ใช้งานได้คุ้มค่าจริง ๆ ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีการเลือกเครื่องทำเครปที่น่าสนใจในครั้งนี้ เชื่อได้เลยว่า เทคนิคและข้อสังเกตต่าง ๆ จะช่วยให้การเลือกซื้อเครื่องทำเครปของคุณนั้นง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย และจากการแนะนำทั้ง 10 อันดับไป หลายคนคงเห็นแล้วว่า ทั้งยี่ห้อและวัสดุแต่ละประเภทนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในลำดับไหน หรือจะเป็นสินค้าที่ไม่อยู่ในลิสต์นี้ก็ตาม หากมีรูปแบบที่ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของคุณ ก็สามารถเลือกซื้อมาไว้ใช้สร้างสรรค์เมนูที่เราชื่นชอบได้ค่ะ