เครื่องดูดฝุ่น dyson ยี่ห้อไหนดีที่สุด ที่สุดในปี 2024
สินค้าคุณภาพของแท้ ส่งฟรี++KLASS เครื่องดูดฝุ่น เป่าลม 2 in 1 รุ่น KB-8001รุ่นไหนดีสุดในตอนนี้ ดูรายละเอียด สินค้าคุณภาพของแท้ ส่งฟรี++KLASS เครื่องดูดฝุ่น เป่าลม 2 in 1 รุ่น KB-8001 คุณลักษณะ ของสินค้าก่อนซื้อ ว่าเป็นไปตามความต้องการสูงสุดของคุณหรือไม่ เพื่อให้คุณได้ซื้อสินค้าไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และเต็มประสิทธิภาพ ควรเช็คราคาขาย
หากคุณกำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่น dysonพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมเครื่องดูดฝุ่น dysonชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ สินค้าคุณภาพของแท้ ส่งฟรี++KLASS เครื่องดูดฝุ่น เป่าลม 2 in 1 รุ่น KB-8001 ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับแนะนำ 1 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น dyson ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้
บทสรุป
สำหรับรีวิวเครื่องดูดฝุ่น dysonน่าจะเป็นแนวทาง ในการตัดสินใจซื้อสินค้า ให้กับหลายๆคนได้เป็นอย่างดีเลยนะคะเมื่อพูดถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านอย่างเครื่องดูดฝุ่น ชื่อของ "Dyson" มักจะเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงเสมอ เพราะขึ้นชื่อในเรื่องเครื่องดูดฝุ่นที่ทรงพลัง แรงดูดสูงและมีความทนทาน จึงทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากเครื่องดูดฝุ่นประเภทไร้สายที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังมีเครื่องดูดฝุ่นประเภทอื่น ๆ อีกหลากหลายที่ผลิตออกมาจำหน่ายอีกด้วย เช่น เครื่องดูดฝุ่นมือถือ, เครื่องดูดฝุ่นแบบถัง, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นต้น ด้วยความที่มีหลายประเภทเช่นนี้ ผู้ใช้งานจึงมักสับสนแล้วใช่ไหมครับว่า ควรเลือกซื้อแบบไหนถึงจะเหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุด
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่นของยี่ห้อ Dyson โดยเฉพาะ พร้อมทั้งแนะนำ 7 อันดับ เครื่องดูดฝุ่นรุ่นยอดนิยมและสามารถซื้อทางออนไลน์ได้ โดยเริ่มต้นจากรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดอย่าง V7 และ V8 ไปจนถึงรุ่นล่าสุดที่เพิ่งออกมาได้ไม่นานอย่าง V11 เลย หากคุณกำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อนี้อยู่ล่ะก็ สามารถติดตามบทความนี้ของเราวันนี้ได้เลยครับ
เสน่ห์ของเครื่องดูดฝุ่น Dyson คือ แรงดูดจำนวนมหาศาลของระบบดูดฝุ่นแบบ "พลังไซโคลน" ซึ่งเป็นระบบดูดฝุ่นที่สามารถแยกระหว่างลมที่ใช้ดูดฝุ่นและฝุ่นที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องออกจากกันได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีลักษณะของการหมุนแบบ "พายุไซโคลน" ช่วยให้ดูดฝุ่นได้อย่างทรงพลัง ไม่อุดตันง่าย ทั้งยังสามารถดูดฝุ่นได้อย่างสะอาดหมดจด โดยไม่ทิ้งเศษฝุ่นให้หลงเหลือไว้แม้แต่นิดเดียว นอกจากห้องจะปราศจากฝุ่นแล้ว ยังช่วยให้อากาศภายในห้องของคุณสะอาดขึ้นอีกด้วยครับ
ก่อนหน้านี้ จุดด้อยของ "เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย" คือ มักจะมีแรงดูดที่น้อยและไม่สามารถใช้งานได้นาน แต่ในปัจจุบัน เครื่องดูดฝุ่นไร้สายนั้น ได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ทรงพลังขึ้นอย่างมาก เช่น มีแรงดูดที่เพิ่มมากขึ้นและสามารถใช้งานต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานาน ด้วยแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาให้ทนทานกว่าเดิมนั่นเอง นอกจากนี้ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายในปัจจุบัน ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์, ชั้นวางของ, โซฟา เป็นต้น โดยที่คุณจะไม่พบอุปสรรคในการทำความสะอาดเลย ซึ่งด้วยคุณภาพของสินค้าที่ยอดเยี่ยมนี้เอง ทำให้เครื่องดูดฝุ่น ของ Dyson ได้ถูกกล่าวขานว่า เป็นหนึ่งใน "เครื่องดูดฝุ่นที่ดีที่สุด" เลยล่ะครับ
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเครื่องดูดฝุ่น Dyson ก็คือ "ความทนทาน" ในการใช้งาน เพราะได้ผ่านการทดสอบเรื่องความทนทานด้วยวิธีต่าง ๆ มาแล้วอย่างหนักหน่วง เช่น การโยนหัวของเครื่องดูดฝุ่นให้กระแทกพื้นเป็นจำนวนกว่า 10,000 ครั้ง หรือการใช้งานต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานกว่าการใช้งานปกติ จึงทำให้มั่นใจในเรื่องความทนทานได้อย่างสบายหายห่วงเลยครับ
ในส่วนของ "ถ้วยเก็บฝุ่น" นั้น ผลิตจากวัสดุ "โพลีคาร์บอเนต" ที่มีความทนทานสูง และเป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้ผลิต "หน้าต่างเครื่องบิน" ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูงเหล่านี้เอง จึงทำให้เครื่องดูดฝุ่น Dyson มีราคาสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่นหลายยี่ห้อ แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของเครื่องดูดฝุ่นแล้ว ถือได้ว่าคุ้มค่ามาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ และด้วยประสิทธิภาพที่เหลือล้นนี้เอง ทำให้แม้แต่ผู้ที่ไม่ชอบทำความสะอาดบ้านด้วยตนเอง ก็สามารถเพลิดเพลินกับการทำความสะอาดได้มากยิ่งขึ้นครับ
ต่อจากนี้ไป เราจะขอแนะนำวิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่น Dyson อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกรุ่นของเครื่องดูดฝุ่นได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้เลยครับ !
เครื่องดูดฝุ่น Dyson นั้น มีหลากหลายประเภท ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยการเลือกประเภทของเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งานของคุณ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ
"เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (Cordless)" เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำความสะอาดบ้านแบบง่าย ๆ หรือทำความสะอาดในบริเวณที่ไม่กว้างมากและยังเหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว ด้วยฟังก์ชันไร้สายนี้เอง ทำให้คุณสามารถทำสะอาดบ้านได้ง่ายขึ้น ถนัดมือ และยังสามารถใช้เป็นเครื่องดูดฝุ่นเต็มรูปแบบ หรือเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือก็ทำได้ เพียงแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ส่วนหัว (หัวดูดฝุ่น) ประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หัวดูดฝุ่นบริเวณพื้น หัวดูดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ หรือหัวดูดฝุ่นบนโต๊ะ ถือเป็นเครื่องดูดฝุ่นอเนกประสงค์ ที่ใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อนครับ
นอกจากนี้ ด้วยน้ำหนักที่เบาของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ทำให้คุณสามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อยแขน แถมยังประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บมากยิ่งขึ้น เพียงแค่แขวนไว้บน "ที่แขวนเครื่องดูดฝุ่น" ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมสุดพิเศษอีกหนึ่งอย่างของเครื่องดูดฝุ่น Dyson นี่เองครับ
หากคุณต้องการทำความสะอาดทั่วบริเวณบ้านทั้งหมด เราขอแนะนำเครื่องดูดฝุ่น "ประเภทถัง (Canister)" เพราะถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทไร้สายจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เครื่องดูดฝุ่นประเภทถังก็ยังสามารถใช้งานในพื้นที่กว้างได้ดีกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ นอกจากนี้ ยังมีแรงดูดที่ทรงพลัง เพราะเชื่อมต่อเข้ากับไฟฟ้าบ้านโดยตรงและยังมีน้ำหนักถังเก็บฝุ่นที่เบา สามารถเคลื่อนย้ายไปทั่วบริเวณบ้านได้อย่างสะดวก
ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณทำการติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่าง "Dyson Ball" ซึ่งเป็นล้อหมุนที่ถูกคิดค้นขึ้นเป็นพิเศษ และเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Dyson เข้าไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวของเครื่องดูดฝุ่นเป็นไปได้อย่างง่ายดาย สามารถเปลี่ยนทิศทางได้รวดเร็วและช่วยรักษาความสมดุลของตัวเครื่องดูดฝุ่นให้กลับมาตั้งอัตโนมัติหากตัวเครื่องกำลังจะล้มในขณะใช้งาน อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทถังก็คือ ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่สามารถแขวนกับอุปกรณ์แขวนเช่นเดียวกับเครื่องดูดฝุ่นประเภทไร้สายได้ครับ
เครื่องดูดฝุ่น Dyson "ระบบมือถือ" เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นในรถ, บนพื้นผิวโต๊ะ, โซฟา, ดูดเศษขยะขนาดเล็กได้อย่างดีเยี่ยม และไม่เหมาะสำหรับการใช้งานหนักอย่างการดูดฝุ่นบนพื้น ด้วยความสะดวกนี้เอง จึงทำให้สามารถพกพาเครื่องดูดฝุ่น Dyson ระบบมือถือไว้ติดรถ เพื่อทำความสะอาดบนรถได้โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ หากคุณทำการเปลี่ยนหัวดูดฝุ่นเป็นประเภทต่าง ๆ เช่น หัวดูดฝุ่นโซฟา หรือหัวดูดฝุ่นพื้น ก็จะทำให้คุณสามารถใช้งานเครื่องดูดฝุ่นระบบมือถือของคุณได้อย่างเต็มรูปแบบเช่นเคยครับ
หัวดูดฝุ่นของเครื่องดูดฝุ่น Dyson มีด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทนั้นได้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานในพื้นที่ที่แตกต่างกันไปครับ
เราขอแนะนำ หัวดูดฝุ่นประเภท "ลูกกลิ้งนุ่ม (Soft Roller Cleaner Head)" สำหรับการทำความสะอาดหรือดูดฝุ่นที่พื้น เพราะหัวดูดฝุ่นประเภทนี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับเศษขยะ หรือฝุ่นบริเวณพื้นได้เป็นอย่างดี และยังมีประสิทธิภาพในการถูพื้นแบบแห้ง ไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดได้หมดจดเท่านั้น แต่ยังทำให้พื้นบริเวณนั้นมีความเงางามเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ
นอกจากนี้ ด้วยวัสดุสุดพิเศษของหัวดูดฝุ่นประเภทลูกกลิ้งนี้ ทำให้สามารถจัดการกับปัญหาเส้นผมหรือเส้นขนของสัตว์เลี้ยง ที่มักจะพันบริเวณลูกกลิ้งได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่งทำความสะอาดบริเวณลูกกลิ้งบ่อย ๆ แบบเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไรก็ตาม หัวดูดฝุ่นประเภทลูกกลิ้งนั้นไม่เหมาะสำหรับการทำความสะอาดหรือดูดฝุ่นบนพื้นผิวที่เป็นพรมหรือผ้านะครับ
หัวดูดฝุ่นประเภท "Direct-drive Cleaner Head" จะมาพร้อมกับเครื่องดูดฝุ่นประเภทถัง ซีรีส์ "Animal" และ เครื่องดูดฝุ่นประเภทไร้สาย ซีรีส์ "Absolute" ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานบนพื้นผิวที่เป็นผ้าและพรมเป็นพิเศษ ด้วยขนแปรงที่ผลิตจากไนลอนสุดพิเศษ ทำให้สามารถจัดการกับฝุ่นละอองขนาดเล็กและเส้นผมหรือเส้นขนที่อยู่บนพื้นพรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่คุณต้องระวังเป็นพิเศษ หากใช้กำจัดเศษฝุ่นหรือขยะขนาดใหญ่ เพราะอาจจะทำให้หัวดูดฝุ่นมีเกิดปัญหาขึ้นได้
แต่ในปัจจุบัน ขนแปรงของหัวดูดฝุ่นประเภท "Direct-drive Cleaner Head" รุ่นใหม่ ๆ นั้น ได้ผสมขนแปรงที่ผลิตจากวัสดุ Carbon Fiber ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของการป้องกันไฟฟ้าสถิต ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งบนพื้นผิวแบบแข็งและพื้นผิวที่เป็นพรม ซึ่งเหมาะสำหรับห้องที่ประกอบด้วยพื้นผิวที่หลากหลายภายในห้องเดียวกัน และสิ่งที่ต้องระวังก็คือ ขนแปรงไนลอนของหัวดูดฝุ่นประเภท Direct-drive นั้น มีพลังในการดูดฝุ่นละอองที่มากกว่าหัวดูดฝุ่นประเภทลูกกลิ้งนุ่ม คุณจึงไม่ควรใช้เป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้หัวที่ดูดฝุ่นเสียหายได้ครับ
หัวดูดฝุ่นมอเตอร์ที่ถูกติดตั้งด้วยหัวแปรงชนิด "Carbon Fiber" เหมาะสำหรับการใช้ทำความสะอาดในพื้นที่แคบ ซึ่งหัวแปรงชนิดนี้ มีทั้งในเครื่องดูดฝุ่นประเภทถังและเครื่องดูดฝุ่นไร้สายซีรีส์ "Moterhead" ซึ่งเป็นหัวดูดฝุ่นที่มีขนาดที่กะทัดรัดกว่าหัวดูดฝุ่นประเภทลูกกลิ้งนุ่ม และหัวดูดฝุ่นประเภท Direct-drive ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี โดยเฉพาะกับบริเวณที่มีพื้นที่แคบ เช่น ใต้โต๊ะ หรือใต้โซฟา เป็นต้น
ด้วยความที่หัวดูดฝุ่นชนิด "Carbon Fiber" สามารถทำความสะอาดได้ดีทั้งพื้นผิวแข็งและพื้นผิวที่เป็นผ้าหรือพรม หัวดูดฝุ่นชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการเปลี่ยนหัวดูดฝุ่นระหว่างใช้งาน นอกจากนี้ หัวดูดฝุ่นชนิดนี้ยังมีน้ำหนักที่เบา ช่วยให้ประหยัดแรงในการถือเครื่องดูดฝุ่นเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ผู้หญิงก็สามารถทำความสะอาดบ้านได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่เหนื่อยเลยครับ
หากคุณต้องการเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่มีพลังดูดมหาศาล เราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีจำนวนไซโคลนมากที่สุด เพราะยิ่งมีจำนวนไซโคลนมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้มีพลังดูดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ลดการอุดตันของท่อดูดฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น และในบรรดาเครื่องดูดฝุ่น Dyson ทั้งหมดนั้น มีบางรุ่นที่มีจำนวนไซโคลนสูงสุดถึง 24 ตัว เลยทีเดียว ดังนั้น หากคุณต้องการใช้กำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือเส้นผมและขนสัตว์ เราขอแนะนำให้คำนึงถึงจำนวนไซโคลนที่มากเข้าไว้
นอกจากนี้ หากเป็นเครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่ล่าสุด ก็จะยิ่งมีพลังดูดและมีประสิทธิภาพในการทำงานของมอเตอร์เพิ่มขึ้นมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่นประเภทไร้สาย รุ่น V11 นั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในรุ่นใหม่ล่าสุด จะมีพลังดูดและประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ที่มากกว่า แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นตามมาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น คุณควรคำนึงถึงงบประมาณที่มี ให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพที่ต้องการได้รับจากเครื่องดูดฝุ่นด้วยนะครับ
ในปัจจุบัน เครื่องดูดฝุ่น Dyson ได้ถูกพัฒนาให้มีเสียงการทำงานที่เงียบลงเป็นอย่างมาก ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบกลไกการหมุนของมอเตอร์ ทำให้แม้แต่ในรุ่นที่มีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย โดยปราศจากเสียงการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นที่ดังจนเกินไปครับ
หากคุณต้องการซื้อเครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทไร้สาย เราขอแนะนำให้ตรวจสอบระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องของเครื่องดูดฝุ่นในแต่ละรุ่น ถ้าคุณอาศัยอยู่คนเดียว ขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกัน 20 นาที ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ แต่ถ้าเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่มีจำนวนหลายห้อง เราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกัน 40 นาที หรือ 60 นาทีขึ้นไป
สิ่งสำคัญที่ควรตรวจสอบอีกข้อหนึ่งก็คือ ระยะเวลาในการชาร์จต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง ซึ่งเครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทไร้สายนั้น จะมีระยะเวลาชาร์จอยู่ที่ 5 ชั่วโมง แต่ในบางรุ่นสามารถชาร์จได้เต็มเพียงใช้ระยะเวลาแค่ 3 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ดังนั้น หากคุณต้องการที่จะใช้เครื่องดูดฝุ่นรวดเร็วมากยิ่งขึ้นและสามารถชาร์จไฟด้วยระยะเวลาที่น้อยลง จึงอาจจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยข้อนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทไร้สายครับ
เครื่องดูดฝุ่นประเภทไร้สายที่มีระบบ "Point and Shoot" นั้น จะช่วยให้การทิ้งผงฝุ่น หรือเศษขยะต่าง ๆ ที่ได้จากการดูดฝุ่นได้อย่างถูกสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น เพราะมีปุ่มกดที่อยู่ห่างจากบริเวณถังเก็บฝุ่นเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ไม่ต้องสัมผัสกับผงฝุ่นหรือฝุ่นละออง ที่อาจจะฟุ้งกระจายในระหว่างการทิ้งผงฝุ่นได้
เศษฝุ่นที่ถูกดูดเข้าไปอาจทำให้เครื่องมีปัญหาได้ หากคุณไม่ทำความสะอาดตัวถังหลังการใช้งานทุกครั้งให้ดี ดังนั้น หลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรทำสะอาดถังเก็บฝุ่นทุกครั้ง เพื่อสามารถใช้ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นได้อย่างเต็มที่ครับ
หากคุณหรือสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้ที่มีอาการแพ้ฝุ่นหรือเป็นโรคภูมิแพ้ เราขอแนะนำให้เลือกเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่มีตัวกรอง "Post Motor" โดยตัวกรองชนิดนี้ ได้ถูกใช้งานในเครื่องฟอกอากาศของแบรนด์นี้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีหน้าที่ในการกรองฝุ่นและสามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้ที่อาจจะมากับฝุ่นในระหว่างคุณทำความสะอาดได้ ทำให้คุณได้รับอากาศที่บริสุทธิ์
เพื่อสุขภาพที่ดีครับ
ราวกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยใช่ไหมล่ะครับ เพราะนอกจากเครื่องดูดฝุ่น Dyson จะช่วยทำความสะอาดห้องได้แล้ว ยังช่วยฟอกอากาศที่ไม่ดีภายในห้อง ให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ได้อีกด้วย ซึ่งตัวกรอง Post Motor นี้ จะมีอยู่ในเครื่องดูดฝุ่นรุ่น "V7" ขึ้นไป ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนทำการเลือกซื้อนะครับ
หากคุณต้องการใช้งานเครื่องดูดฝุ่น Dyson ในสถานการณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้ตรวจสอบอุปกรณ์เสริมที่มีการจำหน่ายแยกต่างหากอยู่มากมาย ด้วยอุปกรณ์เสริมพิเศษเหล่านี้ จะช่วยให้คุณทำความสะอาดบ้านได้ตรงจุดและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น หัวดูดฝุ่นที่มาพร้อมกับท่อพลาสติกยืดได้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำความสะอาดบริเวณที่มีความสูงได้ดียิ่งขึ้น และหัวดูดฝุ่นอื่น ๆ ที่สามารถทำความสะอาดในพื้นที่แคบ หรือตามซอกต่าง ๆ ได้อย่างสะอาดขึ้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม โปรดตรวจสอบอุปกรณ์เสริมก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้งว่า สามารถใช้ได้กับเครื่องดูดฝุ่นรุ่นที่คุณเลือกซื้อได้หรือไม่ เนื่องจากอุปกรณ์เสริมหลาย ๆ ชนิด ถูกกำหนดอย่างเจาะจงให้ใช้ได้กับเครื่องดูดฝุ่น Dyson ในแต่ละรุ่นโดยเฉพาะเท่านั้นครับ
หลังจากที่ได้ทราบวิธีการเลือกกันไปแล้ว คิดว่าคุณผู้อ่านน่าจะมีข้อมูลพร้อมสำหรับการช้อปปิ้งแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้น เรามาดูกันเลยครับว่า 7 อันดับเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่ดีที่สุด จะมีรุ่นใดที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้บ้าง
เครื่องดูดฝุ่นที่มีแรงดูดอันทรงพลัง ด้วยระบบไซโคลน 15 ตัว ที่ถูกจัดเรียงไว้สองชั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ และการจัดการกับฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังมีตัวกรอง Post Motor ระบบ "HEPA" ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อย่างละเอียด ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ทุกพื้นที่ที่ทำความสะอาด แต่รุ่นนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเป็นระยะเวลานานหรือมีบริเวณบ้านที่กว้าง เพราะสามารถใช้งานดูดฝุ่นแบบปกติได้เพียงแค่ 20 นาที และแบบพลังงานสูงสุดได้เพียง 6 นาทีเท่านั้นครับ
สำหรับเครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทไร้สายรุ่นนี้ สามารถดูดฝุ่นด้วยพลังดูดมหาศาลจาก "ดิจิตอลมอเตอร์ V7" และไซโคลนระบบเรเดียล 2 ชั้น ที่มีทั้งหมดถึง 15 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองได้ดียิ่งขึ้น ส่วนแบตเตอรี่นั้นเป็นแบบ Li-ion ช่วยให้ดูดฝุ่นในระบบปกติได้ยาวนานถึง 30 นาที ทั้งยังใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วยดูดฝุ่นเสริม ได้แก่ หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก, หัวดูดปากแคบ, หัวดูดปากแคบแบบโค้งงอได้ ให้คุณได้ใช้งานอย่างครบครันเลยครับ
เครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่นนี้ มาพร้อมกับระยะเวลาในการใช้งานในโหมดธรรมดาที่เพิ่มมากขึ้นถึง 40 นาที ส่วนโหมดพลังงานดูดสูงสุด สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 นาที และยังทรงพลังในการดูดมากขึ้นด้วย "ดิจิตอลมอเตอร์ V8" ที่ถูกพัฒนาให้สามารถดูดฝุ่นได้แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อน นอกจากนี้ ในส่วนของตัวกรอง Post Motor นั้น เป็นตัวกรองขั้นสูงที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ที่ยอดเยี่ยม สามารถล้างทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดเพดาน พื้น และซอกมุมต่าง ๆ ครับ
ใครที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นที่ปรับระดับได้ ขอแนะนำรุ่นนี้เลย เพราะสามารถปรับการใช้งานได้ถึงสามระดับ ได้แก่ ระดับ 1 ระดับ 2 และโหมดพลังงานสูงสุด ซึ่งมีพลังดูดมหาศาล เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบ้านอย่างจริงจังครับ รุ่นนี้ถูกปรับแต่งในเรื่องของการออกแบบให้ "วางในระนาบเดียว" ทั้งมอเตอร์, ถังเก็บฝุ่น และไซโคลน เพื่อให้อากาศเกิดการไหลเวียนเป็นทางตรง ช่วยให้มีพลังดูดเพิ่มมากขึ้น และยังมีฟังก์ชัน "การกรองทั้งระบบ" ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กด้วยตัวกรอง HEPA และฟอกอากาศบริสุทธิ์ออกมาทางด้านหลังตัวเครื่องด้วย
รุ่นนี้มีจอ LCD ในการแสดงผลสถานะของเครื่องดูดฝุ่นแบบเรียลไทม์ และสามารถปรับโหมดการดูดฝุ่นได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมด Eco ที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานเครื่องดูดฝุ่นได้ต่อเนื่องถึง 60 นาที, โหมด Auto ที่สามารถปรับพลังดูดและระยะเวลาการใช้งานอัตโนมัติให้เข้ากับสถานการณ์ขณะกำลังใช้งานอยู่อย่างชาญฉลาด, โหมด Boost คือ โหมดแรงพิเศษ สามารถจัดการกับฝุ่นได้ทุกชนิดและรวดเร็วด้วยพลังดูดที่ทรงพลัง นอกจากนี้ ยังสามารถวางเครื่องลงบนแท่นวางแบบ Drop-in เพื่อจัดเก็บให้เป็นระเบียบหรือชาร์จแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
เครื่องดูดฝุ่น Dyson ประเภทถังเพียงหนึ่งเดียวในการจัดอันดับครั้งนี้ แต่เป็นรุ่นที่ถือได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีไซโคลนถึง 36 ตัว ช่วยให้ดักจับฝุ่นผงและอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างหมดจด ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการบำรุงรักษาตัวกรอง เนื่องจากการแยกฝุ่นจากไซโคลนนั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก จึงไม่จำเป็นต้องถอดมาล้างทำความสะอาด ส่วนสายของเครื่องดูดฝุ่นก็มีความยาวถึง 6.6 เมตร สามารถใช้งานได้อย่างทั่วทั้งบริเวณบ้านและใช้ทำความสะอาดได้ยาวนานตามต้องการ หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่ไปได้เลยครับ
คุณสมบัติทั่วไปของรุ่นนี้เหมือนกับ V11 Fluffy แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือ หัวทำความสะอาดแบบ Torque Drive ที่ประกอบไปด้วยแปรงขนไนลอนและแปรงเส้นใยคาร์บอนป้องกันไฟฟ้าสถิต ใช้งานได้ทั้งกับพื้นแข็งและพื้นผิวที่เป็นผ้าหรือพรม ซึ่งสามารถขจัดสิ่งสกปรกและเศษฝุ่นขนาดเล็กต่าง ๆ ที่ฝังแน่นอยู่ภายในได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมระบบ "Dynamic Load Sensor" ที่ตรวจจับแรงต้านที่หัวแปรงถึง 360 ครั้ง/วินาที เพื่อปรับแรงดูดอัตโนมัติ เมื่อทำความสะอาดในพื้นต่างชนิดกัน นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบด้วยวิศวกรรมทางด้านเสียง เพื่อให้มีเสียงรบกวนขณะเครื่องกำลังทำงานลดน้อยลงด้วยครับ
เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่น Dyson นั้นถือว่ามีราคาที่สูง หากคุณต้องการใช้เป็นระยะเวลานาน เราขอแนะนำวิธีการบำรุงรักษาและการแก้ไขปัญหาในกรณีที่เครื่องดูดฝุ่นทำงานขัดข้องครับ
สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นประจำ เราขอแนะนำให้ล้างตัวกรองของเครื่องดูดฝุ่นเดือนละ 1 ครั้ง เนื่องจากตัวกรองของเครื่องดูดฝุ่น Dyson นั้นไม่ใช่วัสดุกระดาษ จึงสามารถล้างน้ำได้อย่างสบายหายห่วง และเพื่อความสะอาดยิ่งขึ้น หลังจากที่ล้างน้ำเสร็จเรียบร้อย คุณยังสามารถนำไปแช่กับผงซักฟอก เป็นเวลา 10 - 20 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรคให้หมดจดได้อีกด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม ตัวกรองของเครื่องดูดฝุ่น Dyson นั้นก็มีอายุการใช้งานเช่นเดียวกัน หากใช้เป็นระยะเวลานานก็อาจจะเสื่อมสภาพลงได้ โดยจะมีสัญญาณเตือน คือ แม้จะทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว แต่กลิ่นที่ติดมากับตัวกรองนั้นกลับไม่หายไป หรือมีพลังดูดที่ลดน้อยลง ดังนั้น คุณควรเปลี่ยนตัวกรองเมื่อตัวกรองหมดอายุการใช้งานครับ
ในเรื่องบริการหลังการขายนั้น รับรองได้เลยว่า คุ้มกับจำนวนเงินที่เสียไปอย่างแน่นอนครับ โดยเฉพาะในเรื่องของการรับประกันสินค้า สำหรับศูนย์บริการลูกค้าของ Dyson ประจำประเทศไทยนั้น ได้ให้การรับประกันเครื่องดูดฝุ่น Dyson สูงถึง 30 เดือนเลยทีเดียว โดยไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม คุณสามารถส่งเครื่องดูดฝุ่นไปซ่อมแซมได้ฟรีในระยะเวลาที่กำหนดครับ
โดยการรับประกันสินค้านั้น จะรับประกันเฉพาะเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่ทำการซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือจาก Dyson ประจำประเทศไทยโดยตรงเท่านั้น ดังนั้น หากคุณซื้อเครื่องดูดฝุ่น Dyson จากร้านค้าอื่น ๆ จะทำให้ไม่สามารถรับประกันสินค้ากับศูนย์บริการลูกค้าของ Dyson ประจำประเทศไทยได้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับวิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่เราได้นำมาให้คุณผู้อ่านได้พิจารณาประกอบการเลือกซื้อ รวมไปถึง 7 อันดับรุ่นยอดนิยมที่เราภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณได้เลือกซื้อตามความเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ถึงแม้ว่าเครื่องดูดฝุ่น Dyson นั้นจะมีราคาสูง แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมไปถึงบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้เครื่องดูดฝุ่น Dyson ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อเครื่องดูดฝุ่นที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกนั่นเองครับ ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นคุณภาพดีสักรุ่น อย่าลืมให้เครื่องดูดฝุ่น Dyson เป็นหนึ่งในตัวเลือกในใจคุณนะครับ