ยอดนิยม กล้อง full frame ระดับเทพ ที่สุดในปี 2024
กล้อง full frameยี้ห้อไหนดีจนต้องบอกต่อ (พร้อมส่ง) hilips LatteGO Full Automatic Espresso Machine 5400 Series เครื่องชงเอสเปรสโซ่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (EP5447/90) (รับประกันศูนย์ไทย 2 ปี)ลดพิเศษ ช้อปง่ายๆ ถูกกว่าใคร ส่งไว ไม่พอใจยินดีคืนเงิน ลดแรงแซงทุกดีล (พร้อมส่ง) hilips LatteGO Full Automatic Espresso Machine 5400 Series เครื่องชงเอสเปรสโซ่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (EP5447/90) (รับประกันศูนย์ไทย 2 ปี) การรับประกันสินค้า และคืนสินค้าได้ทั่วประเทศ หากได้รับสินค้ามาแล้วใช้ไม่ได้ จากร้านค้า
หากคุณกำลังมองหากล้อง full frameพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมกล้อง full frameชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ (พร้อมส่ง) hilips LatteGO Full Automatic Espresso Machine 5400 Series เครื่องชงเอสเปรสโซ่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (EP5447/90) (รับประกันศูนย์ไทย 2 ปี) ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับแนะนำ 1 อันดับ กล้อง full frame ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้
1.K&F ชุดทำความสะอาด Sensor กล้อง APS-C และ Full-Frame ส่งจากกรุงเทพ
/a>ต้องขออภัย!
ตอนนี้ยังไม่พบรายละเอียดของสินค้านี้ เรากำลังรวบรวมข้อมูลโปรดคลิ๊กที่ปุ่มดูข้อมูลที่เว็บไชต์ที่เราแนะนำ
ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้าน.... HomeCamera
บทสรุป
สำหรับการรีวิวกล้อง full frame ครั้งนี้อาจทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์และเกิดความต้องการสินค้าไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณค่ะสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนจะซื้อกล้อง Full Frame สักตัว หลายคนคงจะทราบกันดีว่า มีผู้ผลิตยักษ์ใหญ่จากหลากหลายค่ายที่จำหน่ายกล้องชนิดนี้ เช่น Canon, Nikon, Sony ฯลฯ แต่ทว่าแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องการใช้งาน ประเภทของเลนส์ และราคา ซึ่งใครหลาย ๆ คนอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกล้องรุ่นไหนดี เพราะหากจะทำการเปรียบเทียบก็คงทำได้ยากใช่ไหมล่ะคะ
ดังนั้น วันนี้ทีมงานจึงได้รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับกล้อง Full Frame และจะมานำเสนอให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับวิธีเลือกซื้อกล้องให้เหมาะกับสไตล์การถ่ายรูปของแต่ละคน รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ตั้งแต่รุ่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ไปจนถึงรุ่นที่มีฟังก์ชันขั้นสูง เหมาะสำหรับมืออาชีพกันเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว เรายังได้รวบรวมรุ่นที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่นิยมมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันถึง 10 รุ่น เพื่อช่วยเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ได้ลองพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกันอีกด้วยค่ะ
ในบทความนี้ เราจะไม่ได้เน้นไปที่จุดเด่นของกล้อง Full Frame แต่เราจะเน้นไปที่สไตล์การถ่ายรูปของแต่ละคน และจุดประสงค์หรือวัตถุที่เพื่อน ๆ ต้องการจะถ่าย ซึ่งเราจะมาแนะนำลักษณะของกล้อง Full Frame ว่าแต่ละรุ่นเหมาะสมกับสไตล์การถ่ายรูปแบบไหนกันค่ะ
กล้องที่มีจำนวนพิกเซลมาก ก็จะสามารถถ่ายภาพได้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น กล้องที่ความละเอียดมากกว่า 30 ล้านพิกเซลขึ้นไป จะเหมาะกับการถ่ายทิวทัศน์ที่ต้องการเก็บรายละเอียดสูง แต่การที่มีจำนวนพิกเซลมากอาจจะส่งผลให้ตัวกล้องสั่นง่าย และไฟล์จะใหญ่มาก ทำให้ยากต่อการจัดการทีเดียว
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากล้องที่มีจำนวนพิกเซลน้อยกว่าจะถ่ายรูปไม่สวยนะคะ กล้องที่มีความละเอียดเทียบเท่า 16–20 ล้านพิกเซลก็เพียงพอ และสามารถให้คุณภาพรูปที่สูง มีความคมชัด ไม่เบลอแม้จะขยายภาพขนาด A2 หรือดูภาพใน PC ก็ตาม
กล้องที่มีพิกเซลจำนวนมากจะเหมาะสมกับผู้ที่ใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายภาพ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะใช้เพื่อถ่ายทิวทัศน์เป็นหลัก และกล้องที่ให้ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล จะเหมาะกับการถ่ายวัตถุมากกว่าค่ะ
ถึงแม้กล้อง Full Frame จะมีขนาดเซนเซอร์เท่า ๆ กัน แต่ประสิทธิภาพการใช้งานนั้นแตกต่างกันตามค่ายผู้ผลิต ซึ่งการใช้เซนเซอร์ที่แตกต่างกันนี้เอง ทำให้มีผลต่อความเร็วในการโฟกัสรูปเป็นอย่างมาก และถึงแม้แต่ละค่ายเองจะใช้เซนเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด แต่ความเร็วก็ยังขึ้นอยู่กับดีไซน์และขนาดของบอดี้อีกด้วย
สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพเคลื่อนไหว เช่น การแข่งกีฬาหรือสัตว์ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วค่ะ สำหรับรุ่นที่โฟกัสได้ช้า ก็จะตอบโจทย์ในการถ่ายภาพรูปวิวทิวทัศน์หรือภาพ Portrait ใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพสไตล์นี้ ก็หายห่วงเรื่องความเร็วในการโฟกัสกันได้เลย
สำหรับใครที่มักถ่ายภาพกลางแจ้ง ควรจะเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติกันละอองน้ำในตัว โดยส่วนมากแล้ว กล้อง Full Frame จะถูกออกแบบมาสำหรับมืออาชีพ จึงมีความคงทนกว่ากล้องธรรมดาทั่วไปอยู่มาก ยิ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับมืออาชีพ ก็จะยิ่งแข็งแรง สามารถรองรับการกดชัตเตอร์ได้ในจำนวนหลายหมื่นครั้ง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่สมบุกสมบัน หายห่วงเรื่องความคงทนของกล้องชนิดนี้ได้เลยค่ะ
แต่ก็มีบางกรณีที่จำเป็นจะต้องถ่ายกลางแจ้งขณะฝนตก และบางโมเดลไม่สามารถใช้งานได้หากโดนน้ำ หรืออยู่ในอุณหภูมิที่ติดลบ ดังนั้น หากเพื่อน ๆ จำเป็นต้องใช้งานกลางแจ้งบ่อย ๆ ล่ะก็ ทีมงานขอแนะนำให้เลือกกล้องที่มีฟังก์ชันกันละอองน้ำในตัว เพื่อความหลากหลายในการใช้งานค่ะ
กล้องชนิดนี้สามารถซื้อเพียงบอดี้อย่างเดียวหรือซื้อคู่กับชุดเลนส์ (Lens Kit) ก็ได้ หากเพื่อน ๆ มีเลนส์ที่ชอบใช้เป็นประจำอยู่แล้ว อาจจะมองหาตัวกล้องที่สามารถใช้ควบคู่กับเลนส์ที่ตัวเองมีอยู่ เพราะนอกจากจะได้ทั้งเลนส์ที่ตรงกับสไตล์การถ่ายภาพที่ชื่นชอบแล้ว การซื้อเพียงแต่บอดี้ของกล้องอย่างเดียวยังมีราคาที่ถูกกว่าซื้อคู่กับชุดเลนส์ (Lens Kit) ใหม่อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวัง คือ อย่าลืมพิจารณาเรื่องของเมาท์เลนส์ด้วยนะคะ เพราะเมาท์เป็นส่วนที่ใช้เชื่อมตัวบอดี้กับเลนส์ ซึ่งแต่ละค่ายก็จะมีเมาท์ที่ผลิตขึ้นมาเอง และบางรุ่นก็ไม่สามารถใช้ร่วมกับเลนส์จากค่ายอื่นได้ค่ะ
กล้องประเภทนี้มีหลากหลายราคาตั้งแต่ระหว่าง 20,000 กว่าบาท ไปจนถึงมากกว่า 200,000 บาท เลยทีเดียว สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ตามงบประมาณ เช่น กล้องที่มีราคาประมาณ 20,000 กว่าบาท จะเหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะมีการใช้งานที่ง่ายกว่า สำหรับกล้องที่มีราคาประมาณ 50,000 บาท ก็จะเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้กล้องเป็นประจำ คุ้นเคยกับการใช้กล้องแล้ว และกล้องที่มีราคาสูงกว่า 50,000 บาท จะเหมาะสำหรับมืออาชีพหรือช่างกล้อง
อย่างไรก็ตาม กล้องระดับเบื้องต้นไม่ได้เหมาะสำหรับเฉพาะมือใหม่เท่านั้น ใครที่ยังเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มใช้กล้อง ก็สามารถเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสำหรับมืออาชีพได้เช่นกัน ดังนั้น อย่าลืมดูวิธีใช้งานและเลือกซื้อตามงบประมาณของตัวเองเป็นหลักนะคะ
สำหรับใครที่ยังไม่มีงบประมาณในใจ อาจจะลองใช้กล้องมือสองหรือรุ่นเก่าก่อนตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปตอนกลางคืน อย่าลืมดูค่า ISO หรือค่าความไวแสงนั่นเอง เพราะยิ่งมีค่า ISO สูง ก็จะยิ่งสามารถถ่ายรูปตอนกลางคืนได้สวยมากขึ้น
อีกทั้ง กล้องสมัยนี้ยังรองรับระบบ Wi-Fi ได้อีกด้วย ทำให้สะดวกและส่งรูปภาพไปยัง Smartphone หรือ Tablet ได้ทันทีหลังภ่ายภาพเสร็จ ซึ่งกล้องรุ่นเก่า ๆ จะไม่สามารถรองรับฟังก์ชันนี้ได้ หากเพื่อน ๆ จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชันนี้ ก็อย่าลืมตรวจสอบรุ่นที่สนใจกันด้วยนะคะ
อ่านข้อมูลวิธีการเลือกกันไปแล้ว มือใหม่หลาย ๆ คนคงได้ข้อมูลสำหรับพิจารณากันไปบ้างแล้ว จากนี้เรามาดูกล้อง Full Frame ยอดฮิต ขวัญใจช่างภาพมือโปรทั้งหลาย ที่เราทำการคัดเลือกรุ่นที่แนะนำมาแบบเน้น ๆ จะมีรุ่นไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ
บอดี้ของกล้องรุ่นนี้ผลิตจากแมกนีเซียม มีความแข็งแรงทนทาน สั่งงานได้ที่จอ LCD ด้วยระบบสัมผัส สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ ผ่านการทดสอบทางคุณภาพอย่างเข้มงวด มอบความสวยงามภาพถ่ายและวีดีโอระดับมืออาชีพ รุ่นนี้ประมวลผลได้รวดเร็วและติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำด้วย AI Servo AF III+ เก็บได้ทุกรายละเอียด มีเซนเซอร์วัดแสง RGB+IR Metering Sensor ให้สีสันรูปภาพที่สวยงาม จับโฟกัสได้อย่างแม่นยำ สามารถเลือกภาพถ่ายจากวีดีโอ 4K สามารถถ่ายในที่แสงน้อยที่ระดับ -3 EV และยังรองรับระบบ Wi-Fi และ GPS อีกด้วย
ตัวบอดี้ของกล้องผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย มีประสิทธิภาพป้องกันละอองน้ำ - ฝุ่นได้ดี สามารถรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมหนัก ๆ มาพร้อมจอ LCD, ช่องมองภาพ, และชุดชัตเตอร์ที่ทนทาน นอกจากนั้นยังสามารถสร้างสรรค์วีดีโอได้ตามจินตนาการ ให้คุณภาพสูงสุดด้วยระบบ D - Movie มาพร้อมระบบ Time Lapse ที่รวบรวมภาพนิ่ง จัดทำเป็นวีดีโอ รองรับทั้งไฟล์ RAW และ JPEG ส่งไฟล์ได้เร็วขึ้นด้วยพอร์ต SuperSpeed ชนิด USB 3.0
กล้องที่เหนือชั้นกว่าด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ช่วยให้รูปถ่ายมีคุณภาพ เจาะลึกทุกรายละเอียด มีระบบ AF ที่สามารถจดจำและติดตามวัตถุแบบอัจฉริยะ EOS ITR ให้คุณหายห่วงแม้ขณะถ่ายวัตถุที่เคลื่อนด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้น ยังมี Optical Low - Pass Filter เพื่อลดการเกิดอาการเหลือบหรือคลื่นสีบนวัตถุ มี Crop Shooting ช่วยให้เลือกถ่ายได้ 2 ขนาด มาพร้อมระบบลดแรงสั่นสะเทือนจากกระจกสะท้อนภาพ โดยการ ซึมซับแรงสั่นสะเทือนเวลากระจกเคลื่อนที่ สามารถแก้ไขปัญหากล้องสั่นได้ดีทีเดียวค่ะ
รุ่นนี้มีการออกแบบตัวบอดี้ที่ทนทาน ป้องกันเศษฝุ่น - ละอองน้ำได้ดี โดดเด่นด้วยระบบ AF ที่ครอบคลุมได้กว้าง ติดตามวัตถุเคลื่อนที่ได้ดีเยี่ยม มีระบบวัดแสงมากถึง 180,000 พิกเซล วัดแสงได้แม่นยำและโฟกัสได้ดีขึ้น ไล่ระดับโทนสีให้สวยงาม อีกทั้ง ยังมีค่าความไวแสงสูง ช่วงไดนามิกกว้าง หายห่วงไม่ว่าแสงจ้าหรือน้อย รักษาโทนให้สวยด้วย White Balance มาพร้อม Picture Control เพิ่มสีสันรูปถ่ายยิ่งขึ้น รองรับการถ่ายวีดีโอคุณภาพสูง สามารถควบคุมแฟลชชนิดไร้สาย และยังถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่าอีกด้วย
กล้องรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาเพียง 685 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่) นับว่าเบาเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น สามารถโฟกัสและชัตเตอร์ได้บนหน้าจอ LCD ที่หมุนได้หลายมุม มาพร้อมแอปพลิเคชันให้คุณใช้งานได้สะดวกกว่าที่เคย รุ่นนี้ยังให้คุณภาพที่ดีเยี่ยม ให้ภาพที่คมชัดทุกรายละเอียดและสีสันที่สวยงาม ลด Noise ของภาพได้ดี จับภาพได้แม้ในที่แสงน้อยถึง -3 EV มี Wi-Fi ในตัวและรองรับทั้ง Bluetooth, NFC, และ GPS มีกันสั่นสำหรับการถ่ายวีดีโอชนิด HD และใช้ร่วมกับเลนส์ได้มากกว่า 70 รุ่นทีเดียว
กล้องรุ่นนี้มีโครงสร้างที่ทนทานทำจากแมกนีเซียมอัลลอย และยังมีระบบกันสั่น 5 แกน ที่ทำงานร่วมกับเลนส์ขณะโฟกัส จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ความเร็วในการจับภาพแม้ขณะเคลื่อนไหว ด้วยคุณสมบัติขั้นสูงของ Fast Hybrid AF ทำให้จับโฟกัสได้ไว ตอบสนองการถ่ายภาพได้อย่างแม่นยำ มีระบบประมวลผลภาพ BIONZ X™ ที่จะทำให้ภาพถ่ายของคุณสวยสมจริงเหมือนดั่งตาเห็น รองรับการเชื่อมต่อด้วย One-Touch ช่วยแชร์ภาพถ่ายได้รวดเร็วด้วย Wi-Fi และ NFC ในตัว สายโพสต์ทั้งหลายต้องชอบแน่นอนค่ะ
กล้องรุ่นนี้เป็นรูปแบบ FX ตัวแรกของ Nikon ที่มีขนาดเล็กและเบาที่สุด ตัวบอดี้ทำจากแมกนีเซียมและคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ทนทานและเบา มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ปรับเอียงได้ขนาด 3.2 นิ้ว มีแฟลชในตัวและคุณสมบัติกันฝุ่นและละอองน้ำ พร้อมลุยทุกสถานการณ์จริง ๆ ค่ะ ระบบโฟกัสจับภาพวัตถุได้อย่างดี มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย Advanced Multi-CAM 3500 II ที่ช่วยโฟกัสแม้ในที่แสงน้อยถึง -3 EV ที่ระดับสายตามองเห็นได้ยาก จับภาพได้แม่นยำด้วยออโต้โฟกัสแบบกลุ่ม สามารถล็อกวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เพิ่มอิสระในการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น สามารถบันทึกได้ทั้งภาพ RAW /JPEG อีกทั้ง ยังรองรับระบบ Wi-Fi ให้คุณเชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้ง่าย ๆ อีกด้วย
บอดี้ของกล้องรุ่นนี้สามารถกันฝุ่นละออง - น้ำได้ มาพร้อมหน้าจอ LCD ที่เพิ่มความรวดเร็วในการโฟกัสและถ่ายรูปได้เพียงแตะที่หน้าจอ นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังเก็บรายละเอียดและสีได้อย่างดี โฟกัสได้แม่นยำและรวดเร็ว รองรับ วีดีโอระดับ 4K และสามารถดึงภาพนิ่งจากวีดีโอด้วยความละเอียดถึง 8.8 ล้านพิกเซล สามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องและคุณสมบัติต่าง ๆ ไฟล์ที่ได้ ยังเหมาะสำหรับตกแต่งภาพอีกด้วย
กล้องที่เหมาะใช้งานในภาคสนาม ทนทานทุกสภาพอากาศ ออกแบบให้ Grip และปุ่มต่าง ๆ ง่ายต่อการจับและการใช้งานจอ Touch Screen ปรับองศาได้ เน้นถ่ายภาพที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การแข่งขัน, ทิวทัศน์, หรืองาน Portrait ต่าง ๆ รุ่นนี้ยังโฟกัส วัตถุได้เร็วและแม่นยำ ติดตามวัตถุได้ดี ภาพถ่ายสีสันสวยงาม ไร้กังวลเรื่อง Noise เลยทีเดียว มีช่วงไดนามิกที่ค่อนข้างกว้าง รองรับการถ่ายวีดีโอ Time Lapse และ 4K ฟังก์ชันชัตเตอร์ไร้เสียงออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีระบบแต่งภาพ ที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
กล้อง Mirrorless Full Frame จาก Sony รุ่นนี้ให้ความคมชัดของภาพสูง ขยายภาพได้ใหญ่โดยที่ยังครบทุกรายละเอียด เช่น ภาพถ่ายเพื่อโฆษณา จับภาพได้รวดเร็ว เก็บแสงได้ดี สามารถจับดวงตาสิ่งมีชีวิตได้ รองรับวีดีโอ 4K และการถ่ายเสมือนจริง รุ่นนี้ยังมี ฟังก์ชัน Pixel Shift Multi Shoot ที่ให้สีสันที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมโหมดถ่ายรูปไร้เสียง ที่สำคัญ ยังมีระบบกันสั่นถึง 5 แกน ถ่ายได้ดีทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ให้ไฟล์รูป RAW ที่ 14 Bit และรองรับการโอนไฟล์อย่างรวดเร็วด้วยพอร์ต USB 3.1 อีกด้วย ที่สำคัญ น้ำหนักเบาเพียง 572 กรัมเท่านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่ได้ดูวิธีการเลือกกล้อง Full Frame และ 10 อันดับ รุ่นที่น่าสนใจกันไปแล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อช่วยในการเลือกกล้องชนิดนี้ได้ง่ายขึ้นนะคะ
เพราะกล้อง Full Frame นั้นมีหลากหลายรุ่นมาก ๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลาย ๆ คนในการเลือกซื้อกัน ดังนั้น ทีมงานแนะนำให้เลือกตามเทคนิคที่ได้แชร์ไปด้านบนนะคะ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะสามารถเลือกรุ่นที่ถูกใจ เพื่อใช้ในการบันทึกช่วงเวลาดี ๆ เก็บไว้กันอย่างแน่นอนค่ะ