ที่ตรวจไข่ตก ของดีจนต้องบอกต่อ ที่สุดในปี 2024

อันดับแรก เรามาดูวิธีเลือกและเคล็ดลับที่ควรรู้ ก่อนซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์กันก่อนค่ะ

ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันนี้ มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันค่ะ คือ " แบบปกติ (Normal Type)" และ " แบบก่อนเวลา (Early Type)" ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้ จะแตกต่างกันที่ช่วงเวลาที่สามารถใช้ทดสอบได้ ดังนั้น เราสามารถเลือกประเภทของชุดทดสอบ ให้เข้ากับวัตถุประสงค์การใช้งานของเราได้ค่ะ

ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ "แบบปกติ" เป็นชุดทดสอบที่คนส่วนมากนิยมใช้กันค่ะ เพราะมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายกว่า ซึ่งสามารถใช้ตรวจหาการตั้งครรภ์ตั้งแต่ช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันที่รอบเดือนขาดหายไป และหากคุณใช้งานได้อย่างถูกต้อง จะสามารถทำให้รู้ผลที่เกือบแน่นอน 100% ได้เลยค่ะ ดังนั้น หากคุณเน้นความแม่นยำมากกว่า เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ “แบบปกติ หรือ Normal Type นี้ จะช่วยตอบโจทย์ของคุณได้ค่ะ

และอีกทั้งข้อดีอีกอย่างของชุดทดสอบครรภ์ประเภทนี้ คือ สามารถซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ดังนั้น จึงสะดวก เหมาะสำหรับคนรู้ตัวว่าประจำเดือนขาดและต้องการทราบผลโดยทันทีทันใด ก็สามารถซื้อมาตรวจได้เลยค่ะ

หากคุณทนไม่ไหวอยากรู้ผลโดยเร็ว และไม่สามารถรอจนถึงช่วงหลังประจำเดือนมาจนถึง 1 สัปดาห์ได้ เราขอแนะนำ "ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แบบก่อนเวลา หรือ Early Type" ซึ่งสามารถใช้ทดสอบช่วงเริ่มต้นการตั้งครรภ์ได้ โดยสามารถทำการทดสอบได้ตั้งแต่ 6 วันก่อนหน้าก่อนที่รอบเดือนเราจะมา การใช้ชุดทดสอบครรภ์ประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่คิดว่าตนเองมีโอกาสสูงที่จะตั้งครรภ์หรือต้องการทราบผลอย่างเร็วที่สุดค่ะ

แต่เนื่องจากชุดการทดสอบการต้องครรภ์ ออกแบบเพื่อตรวจหาฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุของครรภ์ ดังนั้น หากคุณใช้ตรวจเร็วเกินไป ปริมาณ hCG ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ไม่สามารถตรวจไม่พบได้ค่ะ ดังนั้น จึงควรทำการตรวจซ้ำอีกรอบเพื่อผลลัพธ์ที่แน่นอนนะคะ

นอกจากนี้แล้ว ควรจะตรวจดูในส่วนของการแสดงผลลัพธ์ด้วยค่ะว่าแสดงผลอย่างไร โดยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ราคาปกติที่หาซื้อได้ทั่วไป จะใช้การแสดงผลออกมาเป็นเส้นแถบสี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าท้องหรือไม่ท้องนั่นเอง แต่ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ประเภทนี้ มักจะพบปัญหาบ่อย ๆ คือ เส้นแถบสีปรากฏไม่ชัดเจนหรือมีแสงจากภายนอกรบกวน ทำให้คลุมเครือจนอาจมองเห็นผลผิดพลาดได้ค่ะ

ดังนั้น หากคุณต้องการหาชุดทดสอบที่มีความแม่นยำและมีการแสดงผลที่เข้าใจง่าย ขอแนะนำให้คุณใช้ชุดทดสอบการแบบดิจิทัลค่ะ เพราะแบบดิจิทัลสามารถมองเห็นผลได้ง่ายกว่า และมีการแสดงผลว่าตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์ด้วยเครื่องหมาย "+" และ "-" หรือแสดงผลเป็นข้อความแบบดิจิทัลได้เลย ทำให้อ่านผลได้ง่ายและลดการเข้าใจผิดจากการมองเห็นที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ แต่จะมีข้อเสียตรงที่ชุดทดสอบแบบดิจิทัลนั้น มักจะมีราคาสูงกว่าชุดทดสอบที่แสดงผลแบบเส้นแถบสีทั่วไปค่ะ

สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงของการวางแผนจะมีเจ้าตัวน้อย หรือคนที่อยากจะตรวจซ้ำหลาย ๆ รอบ เนื่องจากมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงกันในแต่ละเดือน ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์วันที่ประจำเดือนมาได้อย่างแม่นยำ จึงต้องการตรวจซ้ำหลาย ๆ ครั้ง เพื่อความมั่นใจ และกำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อแบบไหนถึงจะคุ้มค่าดี ?

เราขอแนะนำค่ะว่า ให้คุณเลือกแบบเป็นเซ็ตที่มี 2 หรือ 3 ชิ้น แทนการซื้อแบบชิ้นเดียว เพราะสินค้าที่ขายเป็นเซ็ตในกล่องส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าแบบแยกเป็นชิ้นขายอยู่แล้วค่ะ ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนเลือกซื้อ จะช่วยให้คุณประหยัดได้อีกทางหนึ่งได้ค่ะ

หลายคนอาจเป็นกังวลว่า เราจะสามารถเชื่อถือผลลัพธ์ที่ได้มากน้อยแค่ไหน หรือชุดทดสอบที่ใช้ให้ผลลัพธ์แม่นยำหรือเปล่า ใช่ไหมคะ ? ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ผลิตภัณฑ์ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ จะสามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ 99% ไม่ต่างกัน คุณจึงสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบใดหรือชนิดใดก็ได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าผลลัพธ์จะผิดไปค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ไม่ถูกวิธี ก็อาจส่งผลให้ผลลัพธ์นั้นไม่สามารถเชื่อถือได้ ดังนั้น การศึกษาวิธีการใช้งานและใช้ให้ถูกจึงสำคัญอย่างมาก ทั้งนี้ เราได้นำ "วิธีการใช้งาน" มาฝากกันด้วยค่ะ ซึ่งอยู่ในตอนท้ายของบทความ อย่าลืมอ่านกันนะคะ !

หากคุณยังไม่รู้ว่า จะเลือกชื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์แบบไหน ? หรือยี่ห้อไหนดี? ครั้งนี้ทีมงานมายเบสท์ได้รวบรวมและจัดอันดับชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทั้ง 10 อันดับ มาไว้ตรงนี้แล้วค่ะ มาดูกันค่ะว่ายี่ห้อไหนอยู่อันดับใดกันบ้าง !

การใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่เราสามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเองได้ก่อนที่จะไปพบแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษาหรือทำการฝากครรภ์ต่อไป ซึ่งช่วยลดจำนวนครั้งที่ต้องไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นได้ด้วยค่ะ

ส่วนวิธีการใช้งานนั้นง่ายมากเลยค่ะ ! ชุดผลิตภัณฑ์การทดสอบการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ จะมีหลักการใช้แบบเดียวกัน คือ ใช้ชุดทดสอบ ทดสอบกับตัวอย่างปัสสาวะของเรา โดยปกติแล้วจะใช้ปัสสาวะแรกของวันหลังจากตื่นนอน ซึ่งเป็นช่วงที่มีค่า hCG เข้มข้นที่สุด ซึ่งจะสามารถให้ผลที่แม่นยำที่สุดค่ะ และหลังจากนั้นสามารถนั่งรอดูผลได้เลย ส่วนระยะเวลาในการรอผล ลักษณะการใช้งานและวิธีการแสดงผล อาจจะต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนั้น โปรดดูคำแนะนำการใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดอีกทีนะคะ

นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การใช้ชุดทดสอบให้ถูกช่วงเวลาที่ทดสอบได้ เช่น ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำหนดไว้ว่า ควรจะใช้หลังรอบเดือนมา 3 วัน ก็ควรที่ใช้ทดสอบในช่วงเวลานั้น เพราะหากคุณนำไปทดสอบก่อนเวลา อาจส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่มีความน่าเชื่อถือได้ค่ะ และถึงแม้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์จะมีความแม่นยำในการตรวจ 99% แต่ก็ยังไม่ใช่ 100% ค่ะ ดังนั้น แม้ว่าคุณจะได้รับผลการทดสอบเป็นลบหรือว่าไม่ท้องก่อนหน้า แต่หากหลังจากนั้นหลายวัน ประจำเดือนของคุณยังไม่มา หรือตัวคุณมีความรู้สึกว่าตัวเองมีอาการของคนท้องในช่วงระยะแรกแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไปนะคะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิธีเลือกและอันดับชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคนนะคะ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าชุดทดสอบที่คุณเลือกจะเป็นแบบไหนก็ตาม ที่สำคัญที่สุดอย่าลืมอ่านวิธีการใช้งานให้ละเอียด ก่อนทำการทดสอบนะคะ เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ผลของการทดสอบคลาดเลื่อนได้ และเพื่อความแน่ใจในผลการทดสอบ ควรทำการตรวจซ้ำอีกทีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันนะคะ