ยอดนิยม แอร์ เครื่องปรับอากาศ ระดับเทพ ที่สุดในปี 2024

วันนี้เราก็มีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อแอร์มาฝากกัน เพื่อให้คุณเลือกได้ในแบบที่ต้องการและคุ้มค่าที่สุด

• แบบติดผนัง เป็นแบบที่นิยมใช้งานตามบ้านหรือที่อยู่อาศัยทั่วไป ออกแบบมาอย่างทันสมัย มีรูปทรงที่กะทัดรัด สะดวกต่อการใช้งาน ใช้งานง่าย ดูแลรักษาง่าย
• แบบแขวนใต้ฝ้า มีขนาดใหญ่กว่าแบบติดผนัง ใช้งานได้ 2 แบบคือ แบบแขวนใต้ฝ้าและแบบตั้งพื้น เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องประชุม อาคาร ห้องอาหาร ออฟฟิศ ฯลฯ สามารถทำความเย็นได้มาก มีการกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง แต่จะมีเสียงที่ดัง
• แบบฝังในฝ้า ติดตั้งอยู่บนเพดานโดยฝังเป็นเป็นผิวเดียวกับฝ้า นิยมใช้ในสถานที่กว้าง โดยจะติดตั้งระยะที่ไม่ห่างกันเพื่อกระจายความเย็น ข้อดีคือ มีความสวยงาม ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ ช่วยให้ห้องดูโล่งขึ้น มีเสียงเบา ไม่รบกวนการทำงาน แต่ค่อนข้างจะกินไฟ
• แบบตู้ตั้งพื้น เป็นแบบที่สามารถกระจายความเย็นได้สูง มีขนาดใหญ่ ใช้ตั้งกับพื้น โดยจะส่งลมผ่านช่องระบายอากาศ เหมาะสำหรับการใช้งานในอาคารโล่งกว้าง เช่น สนามบิน เพราะสามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึงและให้ลมที่เย็นสบาย แต่ข้อเสียคือกินพื้นที่และกินไฟมาก

สรุปได้ว่า หากต้องการ เครื่องปรับอากาศ ที่ใช้งานตามบ้านหรือที่อยู่อาศัยทั่วไปควรเลือกแบบติดผนัง เพราะมีขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป กระจายความเย็นได้ทั่วถึงและเพียงพอต่อพื้นที่ห้อง ดูแลง่าย สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ และที่สำคัญคือประหยัดไฟ แต่หากต้องการแบบประหยัดพื้นที่ควรเลือกแบบแขวนใต้ฝ้าและแบบฝังฝ้า และหากต้องการใช้งานแบบอุตสาหกรรมควรใช้แบบตู้ตั้งพื้น

• ระบบอินเวอร์เตอร์ ( Inverter) กินไฟน้อยกว่าแบบทั่วไป ระบบอินเวอร์เตอร์ทำงานด้วยคอมเพรสเซอร์แบบสตาร์ทแค่เพียงครั้งเดียว จากนั้นจะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ โดยจะไม่ตัดบ่อย ๆ เหมือนระบบธรรมดาที่จะทำความเย็นให้ถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้แล้วจะตัดเพื่อหยุดทำงาน เราจะได้ยินเสียงตัดเป็นพัก ๆ มีเสียงตัดที่ค่อนข้างดัง จากนั้นคอมเพรสเซอร์จะเริ่มทำความเย็นอีกครั้งให้ถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ โดยจะทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักและกินไฟมากกว่า แตกต่างจากระบบอินเวอร์เตอร์ที่ทำงานต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ทำให้ไม่กินไฟและไม่มีเสียงดังรบกวน
• เลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง สามารถวัดขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องได้จากตารางวัด ซึ่งโดยปกติแล้วร้านค้าจะมีตารางให้ แต่ถ้าไม่มีก็สามารถหาจากอินเทอร์เน็ตได้ เช่น ห้องปกติที่มีขนาด 12 – 15 ตารางเมตร ควรเลือกขนาด 9,000 BTU หรืออาจใช้สูตรง่าย ๆ โดยคิดตามความกว้าง x ความยาว x 600 สำหรับห้องปกติ แต่หากเป็นห้องที่โดนแดดจะต้อง x 800 แทน
• ค่า EER ยิ่งสูงยิ่งกินไฟน้อย ค่า EER คือ ค่าการทำงานของเครื่องปรับอากาศโดยวัดจากอัตราการทำความเย็นในหน่วย BTU/ชั่วโมง/วัตต์ หมายถึงว่ายิ่งมีค่า EER สูงก็จะยิ่งประหยัดไฟ โดยต้องมีมากกว่า 11 EER ขึ้นไป
• เลือกแบบประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า หากเป็นรุ่นที่ผ่านมาตรฐานจะมีฉลากไฟเบอร์ 5 ติดอยู่แล้ว สามารถเลือกจากฉลากไฟนี้ได้ เพราะช่วยประหยัดค่าไฟรายเดือนได้มากกว่าแบบทั่วไป
• ไม่ควรติดตั้งในมุมอับ การติดตั้งควรเลือกมุมที่ระบายอากาศได้ดี เพราะหากติดตั้งไว้ในมุมอับมุมของห้องจะทำให้กระจายความเย็นได้ไม่ทั่วถึง
• หลีกเลี่ยงการติดตั้งไว้ในผนังมุมที่โดดแดดจัด สังเกตได้ว่าตามโรงแรมหรือสถานที่ต่าง ๆ จะไม่ติดตั้งไว้ในผนังฝั่งที่โดดแดดเพราะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น
• ติดตั้งในพื้นที่โล่งและไม่มีสิ่งกีดขวาง ด้านล่างและด้านหน้าจะต้องไม่มีอะไรมากีดขวาง เช่น ตู้ ชั้นวางของ ต้นไม้ ฯลฯ เพราะทำให้อากาศในห้องหมุนเวียนได้ไม่ดี
• ล้างอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง หรือประมาณ 3 – 4 เดือนต่อครั้ง เพื่อความสะอาดและช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลง

แอร์ ติดตั้งได้แบบไม่กินไฟและทำงานได้อย่างเต็มที่ หากเลือกได้อย่างถูกต้อง ก่อนเลือกซื้อจึงควรตรวจดูให้ดีว่ารุ่นที่เลือกและขนาดที่เลือกนั้น เหมาะสำหรับการใช้งานหรือไม่เพื่อประโยชน์ในการใช้งานของคุณ

คำค้นหายอดนิยมในหมวดหมู่นี้: แอร์ , ​แอร์ติดผนัง , ​ แอร์ตั้งพื้น , ​ แอร์ 18000 BTU , แอร์เคลื่อนที่ , แอร์เคลื่อนที่ AJ ​, ​ แอร์ มิตซูบิชิ , แอร์ ไดกิ้น ​, แอร์ Haier , แอร์ ซัมซุง , แอร์ พานาโซนิค , แอร์ แคเรียร์ , เครื่องฟอกอากาศ , ​ เครื่องฟอกอากาศ sharp

แอร์บ้านกับคนไทยเรานั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาในทุกๆ บ้านเลยก็ว่าได้ เพราะอากาศร้อนอบอ้าวแบบบ้านเราก็ได้เปิดแอร์เย็นๆ ก็ช่วยให้นอนหลับได้สบายมากขึ้น
แต่การเลือกซื้อแอร์บ้านก็มีให้เลือกกันมากมายหลายรุ่นในปัจจุบัน แถมเรื่องของราคาก็ยังมีเยอะกันจนแบบเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนๆ ชาว Priceza คนไหนที่กำลังมองหาแอร์บ้านในราคาที่คุ้มค่าคุ้มราคา เราก็ได้เช็คลิสต์มาให้เรียบร้อยแล้วกับ แอร์บ้าน 5 รุ่นที่ถูกค้นหามากที่สุดของปี 2019 ไปดูกันเลย!

แอร์ Panasonic
เริ่มต้นกันที่แบรนด์ Panasonic กันก่อนกับแอร์บ้านที่มีคุณสมบัติในการทำงานที่นิ่ง เงียบ ไม่รบกวนการนอนหลับ นอกจากนี้ก็ยังมีระบบฟอกอากาศที่ช่วยป้องกันแบคทีเรีย ไวรัส สารก่อภูมิแพ้และเชื้อราอีกด้วย โดยรุ่นที่มีการค้นหามากที่สุดของพานาโซนิค คือ Panasonic R32 Standard 11942 BTU ซึ่งเป็นรุ่นที่มี ราคาแอร์ Panasonic ถูกที่สุด เพราะเราเปรียบเทียบมาให้แล้วอยู่ที่ 12,400 บาท สำหรับราคานี้ยังไม่รวมการติดตั้ง ซึ่งอายุการใช้งานของแอร์บ้านรุ่นนี้คือ ระบบ Powerful Mode ที่ช่วยเร่งความเย็นให้เต็มกำลัง ทำให้ปรับอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็วทันใจ แม้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน

นอกจากนี้ก็ยังช่วยในเรื่องของการป้องกันภูมิแพ้และเชื่อราได้มากถึง 99% พร้อมกับอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดที่ 10 ปี ทั้งนี้ก็มีเรื่องของการรับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี คอยล์เย็น 3 ปี และอะไหล่อีก 1 ปี เป็นอีกหนึ่งแอร์บ้านติดผนังที่น่าสนใจและมีราคาไม่แรงจนเกินไป

มาต่อกันที่อีกหนึ่งรุ่นที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เหมาะกับบ้านหรือห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยรุ่นนี้คือ Panasonic Standard CS-CU-PC18NKT 18970 BTU เป็นแอร์บ้านแบบติดผนังที่มีการใช้แผ่นฟอกอากาศ Super Alleru Buster ช่วยในการยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ได้มากถึง 99% ทำให้การนอนหลับนั้นมีความราบเรียบมากยิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่มีอาการของโรคภูมิแพ้จากการแพ้ฝุ่น หรือละอองเกสรต่างๆ ได้ดี สำหรับ ราคาแอร์ Panasonic รุ่นนี้ถูกที่สุดอยู่ที่ 24,700 บาท นับว่าเป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่กว้างค่อนข้างมากทีเดียว

แอร์ Mitsubishi
แอร์ Mitsubishi เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยเรื่องของคุณภาพสินค้า และระบบการทำงานที่ไว้วางใจได้ ทำให้แอร์บ้านของมิตซูบิชินั้นน่าสนใจและเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของการซื้อมาใช้งาน สำหรับรุ่นแรกที่เราอยากแนะนำก็คือ แอร์ติดผนังขนาด 9206 BTU รุ่น Mitsubishi MS-GK09VA โดยข้อดีของแอร์บ้านรุ่นนี้ก็คือ การทำความเย็นแบบ R410A ที่ช่วยยสร้างความเป็นมิตรให้กับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายโอโซน การนำแผ่นกรองอากาศ Nano Platinum Filter มาใช้ช่วยทั้งเรื่องของการกำจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ดี

ส่วนจุดเด่นที่น่าสนใจมากที่สุดของแอร์บ้านรุ่นนี้ก็คือ ระบบ Econo-Cool ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยควบคุมเครื่องปรับอากาศให้มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดความเย็นที่มากจนเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความรู้สึกภายในห้องก็ยังคงจะเย็นอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ดีโดยไม่เปลี่ยนแปลงความรู้สึก สำหรับ ราคาแอร์ Mitsubishi รุ่นนี้อยู่ที่ 16,200 บาท พร้อมกับการรับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี แผงคอยล์เย็น 3 ปี และอะไหล่ภายในเครื่อง 1 ปี

ดูรุ่นเล็กกันไปแล้ว มาดูรุ่นใหญ่กันบ้างกับแอร์ติดผนัง Mitsubishi ที่มาพร้อม 18266 BTU ช่วยกระจายความเย็นกันได้แบบทั่วทั้งห้อง โดยแอร์บ้านรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้สาร R410A ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ก็ยังมีแผ่นกรองอากาศ Nano Platinum Filter ที่ช่วยกรองอากาศอนุภาคเล็กระดับนาโนได้ อีกทั้งยังมีระบบ Econo Cool ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 20% ระบบ Fuzzy Logic Control ที่เป็นระบบควบคุมอุณหภูมิจากความรู้สึก เพื่อให้ได้ความเย็นแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนเรื่องของการรับประกันก็มีการรับประกัน คอมเพรสเซอร์ 5 ปี แผงคอยล์เย็น 3 ปี อะไหล่ภายในเครื่อง 1 ปี สำหรับ ราคาแอร์ Mitsubishi รุ่นนี้ก็อยู่ที่ 26,900 บาท

แอร์ Haier
สำหรับแบรนด์ Haier นั้นก็เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสำหรับคนที่อยากได้แอร์บ้านในราคาประหยัด เพราะหลายรุ่นนั้นมีราคาที่ค่อนข้างถูก แต่จัดเต็มมาในส่วนของคุณภาพและฟังก์ชั่นในการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่า Priceza เราก็ได้คัดแอร์บ้าน Haier มาให้เพื่อนๆ ได้เลือกกันสองรุ่นด้วยกัน และแต่ละรุ่นนั้นก็มีราคาไม่สูงกับการใช้งานที่ตอบโจทย์อีกด้วย

เริ่มจาก แอร์บ้านขนาด 9,000 BTU ที่มีระบบ Inverter รุ่นนี้ชื่อรุ่น HSU-10VNR03T (N) มีระบบ Inverter Plus PID Inverter ที่ช่วยลดการเสียพลังงานเพื่อให้ประหยัดไฟได้สูงสุด นอกจากนี้ก็ยังใช้น้ำยา R-32 Refrigerant ซึ่งเป็นสารความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของแอร์บ้านรุ่นนี้ก็คือ ฟังก์ชั่นในการทำความสะอาดแบบอัตโนมัติ โดยจะช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่ติดค้างภายในคอยล์เย็นได้เป็นอย่างดี ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับราคาแอร์ Haier ถูกที่สุดนั้นอยู่ที่ 11,634.24 บาท

มาต่อกันที่อีกหนึ่งรุ่นยอดฮิตที่ถูกค้นหากันมามากจริงๆ สำหรับ แอร์บ้าน Haier ขนาด 24000 BTU รุ่น HSU-24CTR03T(N) ซึ่งคุณสมบัติของรุ่นนี้ก็มีทั้งเรื่องของระบบฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองอากาศแบบ PreFilter ช่วยเพิ่มพลังในการฟอกอากาศได้อย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งระบบกระจายความเย็นแบบสวิงได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนซึ่งในด้านของการรับประกัน แอร์บ้านรุ่นนี้ก็มีการรับประกันคอมเพรสเซอร์ให้ 5 ปี และอะไหล่อีก 5 ปี เช่นเดียวกัน ทางด้านราคาแอร์ Haier รุ่นนี้อยู่ที่ 19,499 บาท เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในขนาด BTU ที่เท่ากันนั้นถือว่าราคาคุ้มค่ามากๆ เลยทีเดียว

แอร์ ไดกิ้น
ชื่อเสียงของ แอร์ไดกิ้น (Daikin) นั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักและยอมรับสำหรับแอร์บ้านในหลายๆ ครอบครัว เพราะแบรนด์นี้ต้องบอกเลยว่ามีชื่อเสียงเรื่องแอร์มาเป็นเวลานาน อีกทั้งเรื่องของคุณภาพและการใช้งานก็ไม่ได้เป็นรองใคร สำหรับแอร์ไดกิ้นที่เรานำมาแนะนำกันตัวแรกนั้น ก็เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากการหาข้อมูลบน Priceza กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งรุ่นนี้มีชื่อว่า Daikin SMASH R32 มาพร้อม BTU ขนาด 9082 เป็นแอร์บ้านที่มีความน่าสนใจในเรื่องของระบบกรองอากาศ เพราะมีการนำเอาแผ่นกรองแบบ Titanium Apatite Photocatalytic มาใช้ในระบบกรองอากาศ ช่วยให้ดับกลิ่นได้ดี พร้อมกันนี้ก็ยัง สามารถยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อไวรัสในอากาศได้ถึง 99%

นอกจากนี้ฟังก์ชั่นเด่นที่อยากแนะนำกันก็ยังมีทั้ง โหมด Powerful ที่ช่วยในการทำความเย็นแบบรวดเร็วทันใจแม้ว่าจะเพิ่งเปิดเครื่องไม่นาน โหมดการทำงานช่วงเวลากลางคืนช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมภายในห้อง ทำให้นอนหลับได้อย่างเย็นใจและสบายกายไม่ต้องกลัวตื่นมาหาผ้าห่มกลางดึก มาถึงเรื่องของ ราคาแอร์ ไดกิ้น รุ่นนี้ราคาถูกที่สุดนั้นอยู่ที่ 11,300 บาทเท่านั้น เป็นราคาที่ครบ ตอบโจทย์ และได้ใช้งานแบบสบายๆ เลยทีเดียว

มาต่อกันที่แอร์บ้านที่มีขนาด BTU สูงขึ้นเพื่อห้องหรือบ้านหลังใหญ่ขึ้นบ้าง กับรุ่นนี้ Daikin FTKD18HV28 แอร์บ้าน 18000 BTU ที่มีระบบประหยัดพลังงานแบบ Inverter ที่มีความอัจฉริยะในการควบคุมการทำงาน ซึ่งเป็นลิขสิทธ์เฉพาะของทางไดกิ้นเพียงเจ้าเดียว อีกทั้งยังมีความเงียบในการทำงานด้วยประสิทธิภาพที่กินไฟน้อยแต่ให้ความเย็นคงที่ จึงไม่ต้องกังวลเลยว่ายามดึกจะหนาวเกินไป หรือร้อนเกินไป ที่สำคัญคือความแข็งแรงทนทานโดยเฉพาะในส่วนของคอมเพรสเซอร์ ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีการเสียดสีหรือขัดกัน ซึ่งนี่ก็คือระบบที่ช่วยยืดอายุการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ยาวนานขึ้น สำหรับราคาแอร์ ได้กิ้น นั้นอยู่ที่ 26,700 บาท

แอร์ Natural
ปิดท้ายกันที่แอร์ที่มีหน้าตาน่ารัก แถมยังเคลื่อนที่ไปใช้ในจุดที่ต้องการได้อย่างสบายใจอีกด้วยกับ แอร์ Natural 6000 BTU รุ่น AP-8060 ด้วยตัวเครื่องที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม และกะทัดรัด อีกทั้งยังสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย โดยในส่วนของการทำงานนั้น ก็สามารถปรับบานสวิงและปรับบานเกร็ดขึ้น-ลง ได้ตามความต้องการด้วยการกดเพียงแค่ปุ่มสัมผัสที่ตัวเครื่อง

นอกจากนี้แอร์บ้าน Natural รุ่นนี้ก็ยังมีโหมดในการใช้งานมากถึง 4 โหมดด้วยกันคือ ทำความเย็น, เป่าลมแห้ง, พัดลม และโหมดตั้งเวลาเปิดปิด สามารถปรับอุณหภูมิความเย็นได้ตั้งแต่ 17 – 30 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่อต้องการประหยัดพลังงานก็สามารถปิดคอมเพรสเซอร์ได้โดยการเปลี่ยนมาใช้งานในโหมดของพัดลม ในส่วนของราคา Priceza เราก็ได้ทำการเทียบมาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งราคาถูกที่สุดนั้นอยู่ที่ 5,790 บาทเท่านั้น!!
ใครที่กกำลังมองหาเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์บ้านกันอยู่ ทั้ง 5 รุ่นนี้ก็เป็นแอร์บ้านที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน ระบบทำความเย็นที่ใส่ใจผผู้ใช้งาน อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไปอีกด้วย ซึ่งเพื่อนๆ ที่อยากได้เครื่องปรับอากาศรุ่นไหน ขนาดใด ก็อย่าลืมเข้าไปเปรียบเทียบราคาและดูรายละเอียดฟังก์ชั่นต่างๆ ของแอร์บ้านแต่ละรุ่นกันที่ Priceza.com ได้เลย