สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตัวช่วยประหยัดเวลาในชั่วโมงเร่งรีบ
ปัญหารถติดเป็นปัญหาหลักสำหรับผู้ที่ใช้ชิวิตอยู่ในกรุงเทพฯ หากพักอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน อยากเดินทางแบบชิว ๆ จะทำยังไงได้บ้าง จะให้เดินหรือปั่นจักรยานไปถึงที่ออฟฟิศคงจะได้อาบน้ำกันใหม่อีกรอบ เพราะอากาศของประเทศไทยร้อนเหมือนซ้อมตกนรก แต่ถ้าให้พึ่งพี่วินก็เสี่ยงกับชีวิตเหลือเกิน พี่วินบางคนก็ขี่รถเหมือนออกมาจาก Fast & Furious เฉี่ยวกระจกรถยนต์บ้างหล่ะ หรือฝ่าไฟแดงบ้างหล่ะ ต้องคอยลุ้นว่าวันนี้จะไปถึงที่ทำงานไหม แต่ว่าด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทาง ด้วยขนาดที่เล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา และสามารถพับได้ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้คุณสามารถนำ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก สบาย และยังมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อย พร้อมระบบต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือคุณให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่มือใหม่อย่างเราจะเลือกซื้อ Scooter ไฟฟ้าอย่างไรดี เราจึงรวบรวมวิธีเลือกสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาฝากกันเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อกัน
วิธีเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องดูอะไรบ้าง ?
1. น้ำหนักของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า คือ น้ำหนักเพราะมันมีผลต่อความสะดวกในการพกพาจริง ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานอีกด้วย เนื่องจาก Scooter ไฟฟ้าไม่สามารถพาใช้ได้บนทุกเส้นทางในเมืองหลวงและสภาพถนนไม่เอื้อกับการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าสักเท่าไร ฉะนั้นเราอาจจำเป็นต้องแบกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในบางสถานการณ์ เช่น ขึ้นไฟฟ้า หรือขึ้นรถเมล์ ดังนั้นน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นปัจจัยลำดับแรก ๆ ที่เราควรคำนึงถึง แต่ถ้าใครที่คิดจะเอามาใช้แค่ขี่เล่นในหมู่บ้าน ขี่ไปซื้อของที่ร้านปากซอยหรือ 7-Eleven ก็อาจจะไม่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำหนักมาก เลือกตามสไตล์ที่ชอบได้เลย
2. ระยะในการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
อย่างที่เรารู้กันว่า Scooter ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดีในเวลาเร่งรีบ ซึ่งหากเราต้องใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในการเดินทางทุกวัน แบตเตอร์รี่ของสกูตเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่เราควรเลือก นอกจากนี้แล้วควรคำนึงถึงระยะเวลาชาร์จต่อ 1 ครั้งใช้เวลาเท่าไร เพื่อให้สะดวกต่อการใช้ในครั้งต่อไป บางยี่ห้อจะมีคุณสมบัติพิเศษตรงที่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ซึ่งก็จะช่วยให้เพิ่มระยะทางในการเดินทางได้ด้วย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่ต้องแบกน้ำหนักแบตเตอรี่เพิ่มด้วยเช่นกัน (น้ำหนักแบตเตอรี่เสริมโดยปกติจะที่ประมาณ 1 กิโลกรัมกว่า ๆ)
3. มอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้าและขนาดของล้อควรมีขนาดที่เข้ากันพอดี เพราะหากมอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาดใหญ่กว่าและล้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบรวมศูนย์กลางเล็กกว่า เมื่อนำไปใช้งาน จะพบว่าเกิดการลื่นไถลได้ง่าย ซึ่งถือว่าอันตรายมาก ขนาดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ควรใช้เพื่อความปลอดภัยคือ 250W แต่อาจจะเป็นปัญหาเมื่อต้องปีนขึ้นทางลาดชัน สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ขนาด 350W-450W เป็นขนาดมาตรฐาน แต่ผู้ผลิตได้ค้นพบที่จะทำให้มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังแรงขึ้นด้วยแพคเกจขนาดเล็กกว่า นั่นคือการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าที่สูงเท่ากับ 1000 วัตต์ ด้วยมอเตอร์ฮับแบบล้อเดียวที่มีขนาด 10 นิ้ว
4. ความสูงของแฮนด์ต้องอยู่ในระดับที่พอดี
ลองจินตนาการดูว่า คุณต้องยืนทรงตัวอยู่บนสกู๊ตเตอร์นานขนาดไหน หากต้องใช้มันเดินทางวันละ 5 กิโลเมตร หรือประมาณ 5-8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่เจ้ายานพาหนะสองล้อนี้ทำความเร็วได้ประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงควรเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ซับพอร์ตสรีระเราได้ด้วย เทคนิคง่าย ๆ เริ่มจากไปทดลองใช้งานจริงที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเลือกคันที่มีระดับความสูงของแฮนด์พอดีกับความสูงของเรา และปรับความสูงขึ้นลงได้หลายระดับ เวลาขับขี่จะได้ไม่ต้องก้มหรือโก่งหลังมากเกินไป ที่สำคัญการไปลองขี่ด้วยตัวเองจริง ๆ จะช่วยให้เลือกเจ้าสองล้อคู่ใจได้ง่ายขึ้นด้วย
5. ขนาดของล้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
ข้อนี้อาจจะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์การพิจารณาของผู้ใช้งานหลาย ๆ ท่าน แต่ขนาดของล้อถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่ง ซึ่งมันเป็นตัวกำหนดน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้า ความปลอดภัยในการขับขี่ และความสบายในการขับขี่ สำหรับการใช้งานบนท้องถนนในเมือง ควรเลือกคันที่มาพร้อมล้อขนาด 8 นิ้วขึ้นไป เพราะล้อไซส์นี้สามารถเคลื่อนผ่านหลุมขนาดเล็ก เนิน ลูกระนาด หรือพื้นต่างระดับที่ไม่สูงนักได้ดี ช่วยให้ยังทรงตัวและควบคุมทิศทางได้อยู่ ส่วนล้อขนาด 5-6 นิ้ว จะเหมาะกับการใช้เดินทางในหมู่บ้าน หรือใช้เดินทางในตึกและอาคารมากกว่า
6. การพับเก็บที่สะดวกต่อการขนย้าย
ใครที่คิดจะซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้เชื่อมการเดินทาง การพับได้เป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะเห็นหลาย ๆ แบรนด์พยายามชูจุดขายที่การมีที่นั่งในตัว แต่แบบนั้นทำให้พับเก็บค่อนข้างยาก แต่ก็มีบางยี่ห้อที่พับเก็บได้ เช่น Urban-E เป็นต้น ปกติแล้ว Scooter ไฟฟ้า มันจะถูกออกแบบมาให้กดสลักครั้งเดียวแล้วพับได้เลย หากพับเก็บยากและใช้เวลาพับเก็บนาน อาจจะทำให้คุณเสียเวลา แล้วตกรถไฟขบวน BTS หรือรถเมล์ได้ ดังนั้นต้องเช็คให้ดีก่อนเลือกซื้อ
7. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นไหนก็ขี่ตอนฝนตกหนักไม่ได้
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ ไม่ได้ออกแบบมาให้กันน้ำจริงจัง มันกันน้ำกระเซ็นได้ ขี่ตอนฝนตกปรอย ๆ พอไหว แต่ถ้าฝนตกหนัก หรือมีน้ำท่วมขัง แนะนำให้งดขี่ได้เลย ยิ่งถ้าเป็นฤดูฝนนี่ควรพับเก็บไว้ในบ้าน หากเอาออกมาขี่เล่น MV กลางสายฝน Scooter ไฟฟ้าตัวโปรดอาจจะเจ๊งได้ ส่วนพื้นผิวที่เหมาะสำหรับการขับขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าคือ พื้นผิวแข็ง ๆ ประมาณนึง ถ้าไปเจอดินร่วน ๆ ดินแฉะ ๆ หรือ พื้นกรวดที่เต็มไปด้วยกรวดและเศษหิน ไม่เหมาะอย่างยิ่ง พื้นดินลูกรังเลี่ยงได้ควรเลี่ยงเช่นกัน
เช็คสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคาล่าสุด
- Self Balancing Scooters 7 นิ้ว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 2,522 บาท
- Mini Segway Hoverboard สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 2,969 บาท
- Easybike 520 Self Balancing Scooters สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 3,359 บาท
- Self Balancing Scooters 10 นิ้ว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 3,499 บาท
*สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
จบไปแล้วสำหรับวิธีการเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เหตุผลหลักในการเลือกซื้ออยู่ที่จุดประสงค์ในการใช้ หากต้องการ Scooter ไฟฟ้า เอาไว้ขี่เล่นใกล้ ๆ บ้านก็ไม่ต้องคำนึงเรื่องน้ำหนัก แบตเตอรี่ หรือการพับเก็บมาก แต่ผู้ที่ต้องการใช้เอาไว้เดินทางในเมืองอย่างจริงจัง ก็ควรคำนึงถึงปัจจัยข้างต้นก่อนซื้อ เพราะหากซื้อมาแล้วไม่ตรงตามกับสเปคที่อยากได้ อาจต้องเสียเงินเปล่าโดยใช่เหตุ สำหรับผู้ที่ต้องชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม เราก็มีสินค้าอย่าง จักรยาน จักรยานไฟฟ้า สเก็ตบอร์ด และอื่น ๆ อีกมากมาย ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น ส่วนลดต่าง ๆ ได้ที่ iPrice Thailand เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ในยุคที่เวลาเป็นเงินเป็นทอง ใคร ๆ ก็อยากทำภารกิจต่าง ๆ ให้เสร็จลุล่วงในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเช้าที่ต้องเร่งรีบไปทำงานให้ทัน หลายคนจึงเลือกทานอาหารเช้าแบบง่าย ๆ อย่าง “ขนมปังปิ้ง” คู่กับนม หรือกาแฟ แทบทุกบ้านจึงต้องมีเครื่องปิ้งขนมปังติดห้องครัวไว้เลย แต่สังเกตกันไหมคะว่า ถึงแม้อุปกรณ์ชิ้นนี้จะได้รับความนิยมแค่ไหน แต่ในอินเทอร์เน็ตกลับแทบไม่มีข้อมูลแนะนำกันเลย ถ้าใครอยากรู้ก็ต้องไปตั้งกระทู้ถามกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แถมข้อมูลก็ไม่ค่อยจะครบถ้วนเท่าไหร่ด้วย
เพื่อแก้ปัญหาตรงนี้ให้ทุกบ้าน วันนี้ทีมงานของเราจึงไปรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทุกคนมาให้โดยเฉพาะเลยค่ะ ตัวเนื้อหาจะแยกออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ “วิธีการเลือกเครื่องปิ้งขนมปัง” ในแบบที่เข้าใจง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงเทคนิคก็ทำตามได้ และ “10 อันดับเครื่องปิ้งขนมปัง” ที่น่าสนใจ ซึ่งได้ผ่านการเปรียบเทียบทั้งจากคุณสมบัติ รีวิว รวมไปถึงราคามาให้ทุกคนได้ศึกษากัน ณ บทความนี้ค่ะ
ก่อนจะมาเจอบทความนี้ เพื่อน ๆ มีวิธีการเลือกอย่างไรบ้างคะ? เชื่อว่าหลายคนคงเน้นหารีวิวตามอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็เลือกซื้อจากแบรนด์ที่ตัวเองคุ้นชิน โดยซื้อรุ่นที่คุณสมบัติตอบโจทย์และมีราคาเหมาะสมมากที่สุดกันใช่ไหมล่ะคะ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า “ยี่ห้อนั้นหรือรุ่นนั้นดีจริง?” ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยดูรุ่นอื่น และที่สำคัญ “ยังไม่รู้วิธีการเลือกที่ถูกต้องเลย” ว่าจะตอบโจทย์การใช้งานของบ้านตัวเองหรือไม่ ไม่ต้องห่วงค่ะ เราเตรียมข้อมูลมาแชร์ให้อ่านพร้อมทางด้านล่างนี้เลย
สิ่งแรกที่อยากให้ทุกคนตรวจสอบกันก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องปิ้งขนมปังก็คือ ‘จำนวนช่องใส่ขนมปัง’ นั่นเองค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้ว เครื่องปิ้งขนมปังจะมีทั้งหมด 2 ช่อง ซึ่งหมายถึง สามารถปิ้งขนมปังทีละ 2 แผ่นได้พร้อมกันในครั้งเดียว แต่ก็ยังมีเครื่องที่มีเพียงช่องเดียวอยู่เหมือนกัน
ถ้าจะซื้อไว้สำหรับใช้ในครอบครัวล่ะก็ ขอแนะนำให้เลือกประเภทที่มี 2 ช่องหรือมากกว่า แต่สำหรับใครที่อยู่หอ หรืออยู่อพาร์ทเม้นท์คนเดียวแนะนำให้ใช้แบบ 1 ช่องเพราะจะได้ไม่เปลืองพื้นและยังเป็นการประหยัดไฟอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ต้องห้ามลืมคำนึงถึง “ความหนาของแผ่นขนมปัง” ที่ตัวเองทานอยู่เป็นประจำด้วยนะคะ เพราะถ้าปกติคุณเป็นคนชอบทานขนมปังแผ่นหนา แต่ซื้อเครื่องที่มีช่องแคบเกินไป สุดท้ายก็ต้องเสียเวลามานั่งสไลด์ขนมปังให้บางลงอีก ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณชอบทานแผ่นบาง แต่ใช้เครื่องปิ้งแบบแผ่นหนา ก็อาจจะได้ความกรอบที่ไม่สม่ำเสมอกัน แถมยังเปลืองพื้นจัดวาง เพราะเครื่องมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นด้วยค่ะ
เครื่องปิ้งขนมปังแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์นั้นก็จะมีความสามารถในการทำงานที่แตกต่างกันไป ถ้าเลือกซื้อเครื่องที่มีฟังก์ชันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราแล้วละก็ การใช้ชีวิตของในแต่ละวันของทุกคนก็จะสะดวกขึ้นมากอย่างแน่นอนค่ะ
หลายครั้งหลายคราที่เราก็ทานขนมปังกันไม่ทัน ดันหมดอายุเสียก่อน โดยเฉพาะเวลาที่เผลอวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง หลายคนจึงเลือกเก็บขนมปังไว้ในช่องฟรีซแทนเพื่อถนอมระยะเวลาเก็บให้อยู่ได้นานขึ้น ฉะนั้น เวลาเลือกซื้อเครื่องจึงควรดูด้วยว่ามีระบบ Defrost หรือละลายน้ำแข็งหรือไม่ เพราะรุ่นเหล่านี้จะสามารถปิ้งขนมปังให้คุณได้ แม้เพิ่งหยิบออกมาจากช่องฟรีซก็ตาม แถมยังให้รสชาติดีกว่าปล่อยให้น้ำแข็งละลายเองอีกด้วยค่ะ
เมื่อคุณมีเครื่องปิ้งที่ดีแล้ว การซื้อขนมปังแผ่นที่ทำสด ๆ จากร้านเบเกอร์รี่ที่คุณชื่นชอบมาเก็บไว้ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะคุณสามารถยืดอายุของพวกมันและปิ้งทานได้อีกครั้ง โดยได้รสชาติที่หอมกรุ่นเหมือนออกมาจากเตาใหม่ ๆ เลยค่ะ
ใครที่ชอบทานขนมปังคงอยากได้เครื่องที่สามารถอุ่นขนมปังได้หลายชนิดกันใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นเบเกิ้ลหรือครัวซอง แต่ถ้าใช้เครื่องปิ้งรุ่นทั่วไปก็คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ด้วยความลึกของช่องที่จำกัด ดังนั้น ขอแนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่มี Lift Function ซึ่งจะมีช่องปิ้งที่มีลักษณะยกขึ้นได้ การใช้งานจึงค่อนข้างยืดหยุ่นและหลากหลาย
ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถอุ่นของทอดทั้งหมด เช่น ปลาหรือไก่ได้อีกด้วย โดยที่ยังคงรสชาติไว้ได้แบบดั้งเดิม ไม่นิ่มหรือแข็งไปเหมือนอย่างตอนใช้ไมโครเวฟค่ะ
หลายคนอาจคิดว่าเครื่องปิ้งขนมปังนั้นไม่สามารถปรับตั้งค่าได้ตามใจเหมือนอย่างเตาอบ แต่ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่นี้ เครื่องปิ้งที่สามารถเลือกระดับความร้อนให้ตรงตามความต้องการของเราได้ก็มีวางจำหน่ายอยู่เหมือนกันค่ะ
ไม่ว่าคุณจะอยากได้ ขนมปังที่ไหม้นิด ๆ แบบกำลังดี หรือขอแบบสีเหลืองอ่อน ๆ ก็พอ จะสามารถทำได้ง่าย ๆ เลย แค่เลือกใช้เครื่องที่สามารถปรับเพิ่ม-ลดระดับความร้อนในการปิ้งได้ตามความชอบ ยิ่งสำหรับครอบครัวใหญ่แล้ว ฟังก์ชันนี้จะเป็นประโยชน์มาก ๆ อย่างแน่นอน เพราะแต่ละคนจะต้องการความกรอบของขนมปังไม่เท่ากัน
เครื่องปิ้งขนมปังเปรียบเสมือนของเล่นสำหรับเด็ก ๆ ชิ้นนึงเลยค่ะ ด้วยดีไซน์ที่กดเล่นได้ แถมยังมีขนมปังเด้งออกมาเมื่อปิ้งเสร็จ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้เด็กกันเลยทีเดียว ดังนั้น บ้านไหนที่มีเด็กเล็ก แนะนำให้ซื้อรุ่นที่มีระบบล็อกเครื่องด้วย เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานและกับตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารุ่นนั้น ๆ จะมีระบบความปลอดภัยแค่ไหน ก็ต้องอย่าลืมเก็บซ่อนให้ลับตาจากเด็ก ๆ ด้วยนะคะ
เนื่องจากเครื่องปิ้งขนมปังเป็นสิ่งที่ต้องใช้แทบจะทุกวัน หลายบ้านจึงมักนำออกมาวางทิ้งไว้บนโต๊ะอาหารหรือบนเคาน์เตอร์ครัว ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้นล่ะก็ หากเป็นไปได้ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้เครื่องปิ้งแบบมีฝาปิดเลยค่ะ
เพราะการวางเครื่องทิ้งไว้ข้างนอกอยู่ตลอดนั้น มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีเศษฝุ่น เศษผง หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ตกลงไปในตัวเครื่อง ซึ่งบางอย่างอาจทานเข้าไปแล้วเป็นอันตรายได้ และถึงแม้ว่าการใช้ผ้ามาคลุมไว้จะช่วยป้องกันได้เหมือนกัน แต่ถ้าเรานำผ้ามาคลุมทันทีที่ใช้เสร็จ ก็มีความเสี่ยงที่ตัวผ้าอาจติดไฟเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้ เพื่อความลอดภัย แนะนำให้หลาย ๆ บ้านหันมาสนใจเลือกเครื่องแบบที่มีฝาปิดกัน น่าจะดีกว่า แถมเครื่องแบบมีฝาปิดที่ออกแบบมาในปัจจุบัน ก็ดูดีดูทันสมัยอยู่มากมายหลายรุ่นเลยค่ะ
ก่อนที่หลาย ๆ คนจะซื้อโดยไม่ทันคิด เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ตรวจสอบขนาดของเครื่องให้แน่ใจก่อนว่าสามารถจัดวางกับพื้นที่ที่คุณตระเตรียมไว้หรือไม่ เพราะบางเครื่องอาจมีขนาดใหญ่เกินไป เมื่อนำไปวางบนโต๊ะจะสร้างความเกะกะรกสายตา หรือไม่สามารถจัดเก็บในตู้ได้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาไซซ์สำหรับคนซื้อทางออนไลน์ด้วย เพราะความขนาดจริงใหญ่กว่าในรูป ยิ่งบ้านไหนที่มีพื้นที่จำกัด ก็ควรเช็กเรื่องขนาดกันให้ดีก่อนเลยค่ะ
เครื่องปิ้งขนมปังเป็นสิ่งที่เราใช้ประกอบอาหารแทบจะทุกวัน ความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดเช่นกัน เพราะทุกครั้งที่เราปิ้งขนมปังก็จะต้องมีเศษของขนมปังร่วงหล่นออกมาอยู่ตลอด แนะนำให้มองหาเครื่องปิ้งที่มีถาดรองด้านล่าง ที่คุณสามารถดึงถาดออกมาเทหรือทำความสะอาดเศษขนมปังได้อย่างง่าย ๆ นอกจากนี้ ต้องอย่าลืมหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำด้านนอกให้สะอาดโดยถอดปลั๊กให้เรียบร้อยก่อนด้วยทุกครั้งนะคะ
แถมท้ายให้ด้วย ข้อดีของการใช้เครื่องปิ้งขนมปัง ซึ่งข้อดีนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการที่จะได้รับประทานขนมปังแสนอร่อยกรอบ ร้อนและหอมกรุ่นได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการให้ความร้อนในเวลาสั้น ๆ จึงทำให้ขนมปังที่ได้มีผิวหน้ากรุบกรอบ แต่ยังคงความนุ่มของเนื้อขนมปังอยู่ภายใน เหมาะสำหรับมื้อเช้าที่ดีในเวลาที่เร่งรีบมาก ๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับเตาอบแล้ว เจ้าเครื่องปิ้งขนมปังนี้มีขนาดเล็กกว่ามาก เมื่อซื้อมาแล้วก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเลยว่าจะนำไปวางตรงไหนเพราะไม่ได้ใช้พื้นที่อะไรมากมาย แถมรุ่นในปัจจุบันที่วางขายกันยังมีดีไซน์ภายนอกที่ดูดีทันสมัย สามารถใช้ตกแต่งห้องครัวให้โมเดิร์นไปพร้อมกันได้ง่าย ๆ เลยค่ะ สรุปแล้ว ให้ทั้งความอร่อยแบบสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา ประหยัดพื้นที่และดีเลิศครบทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างนี้ บ้านไหนไม่มีไม่ได้แล้วล่ะค่ะ!
ทุกคนคงเห็นแล้วว่า การเลือกซื้อเครื่องปิ้งขนมปังสักเครื่องนั้นมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลย แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากจนเกินไปใช่ไหมล่ะคะ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมพิจารณาควบคู่ไปกับข้อมูลของสินค้าต่าง ๆ ที่น่าสนใจด้านล่างนี้ด้วยนะคะ เพื่อเป็นไอเดียในการตัดสินใจ แต่อย่าลืมว่า ควรเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์กับการใช้งานของบ้านเรา มากกว่ายึดตามอันดับอย่างเดียว
รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนมีงบจำกัดอย่างน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาเลยคะ เพราะมีราคาแบบเป็นมิตรสุด ๆ แม้จะมีดีไซน์ที่ดูเรียบ ๆ แต่สามารถใช้งานง่ายด้วยปุ่มปรับระดับความร้อนได้ถึง 7 ระดับ มาพร้อมฟังก์ชัน High Lift ช่วยยกขนมปังขึ้น ทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีขนาดกะทัดรัดและกำลังไฟไม่เยอะ ตอบโจทย์คนที่อยู่คนเดียวได้ดีเลยค่ะ
คนส่วนใหญ่ที่ซื้อไปค่อนข้างพึงพอใจ บอกว่าเร่งความร้อนได้ไวดี แต่ขณะปิ้งครั้งแรกจะมีกลิ่นค่อนข้างแรงนะคะ ต้องใช้งานไปเรื่อย ๆ ปัญหานี้ถึงหายไป อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับฟังก์ชันที่ได้มาค่ะ
รุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่ราคานะคะ คุณสมบัติการใช้งานของเค้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะทำจากวัสดุสเตนเลสทนทาน เสริมพลาสติกแบบหนา ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมควบคุมความร้อนได้ 7 ระดับ และมีดีไซน์พิเศษให้ด้านข้างไม่ร้อน และมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ จึงเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน มาพร้อมดีไซน์สวย สีสันสดใส ดูใหม่อยู่เสมอ
ผู้ที่ซื้อใช้จริงชื่นชอบฟังก์ชันที่มีช่องระบายความร้อนด้านล่าง ปลอดภัยต่อการใช้งาน แต่เสียงสปริงดีดเมื่อขนมปังสุกอาจจะดังไปสักนิดและแรงไปหน่อย อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาเท่านี้ ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ
เริ่มต้นกันด้วยแบรนด์ที่หลายคนรู้จักกันดี เพราะมีคุณภาพและราคาเป็นกันเอง โดยรุ่นนี้มีช่องใส่ขนมปัง 2 ช่อง ทั้งขนาดบางและหนา ไม่ว่าคุณชอบทานแบบใดก็สามารถปิ้งได้ พร้อมมีหลายฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง, ระบบ High Lift ยกขนมปังขึ้น และระบบหยุดการทำงานของเครื่องทันที อีกทั้งยังสามารถปรับความร้อนได้ถึง 7 ระดับ ช่วยให้คุณกำหนดความไหม้กรอบได้ตามใจ
หลายคนที่ใช้รุ่นนี้ต่างบอกว่าใช้งานง่ายและยังมีฝาปิดป้องกันฝุ่น ช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องได้ดี แถมยังมีถาดรองเศษขนมปังให้ด้วย ถือว่าตอบโจทย์ครบทุกการใช้งานเลยค่ะ
มาที่แบรนด์ดังในเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้ามายาวนานอย่าง SHARP ด้วยช่องปิ้งขนมปัง 2 ช่องมาตรฐาน เหมาะกับการปิ้งช่องละแผ่น โดยสามารถปรับความร้อนได้ถึง 7 ระดับ แถมมีฟังก์ชันหยุดการทำงานทันทีและมีถาดรองเศษขนมปังที่สามารถถอดไปทิ้งได้ ช่วยรักษาความสะอาดให้กับเครื่องอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บสายไฟใต้เครื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ
หลายคนที่ซื้อใช้จริงรีวิวไว้ว่าสินค้าใช้งานได้มีคุณภาพสมเป็นแบรนด์เก่าแก่ สามารถปิ้งขนมได้เร็ว ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาที่ย่อมเยาแล้ว ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย น้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาที่อยู่หอเอาไว้พิจารณาได้เลย
อีกหนึ่งรุ่นที่มาพร้อมราคาย่อมเยา แต่มีฟังก์ชันเสริมตามมาตรฐานครบครัน ทั้งปรับความร้อนได้ถึง 7 ระดับ ฟังก์ชันละลายน้ำแข็งและปุ่มยกเลิกการทำงานขณะปิ้ง พร้อมถาดรองเศษขนมปังจึงสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย เสริมด้วยไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่องขณะใช้งาน ถือว่าตอบโจทย์ครอบครัวเล็ก ๆ ได้ทั้งครอบครัวเล็กและใหญ่เลยค่ะ
หลายคนที่ได้ลองใช้ต่างชื่นชอบเพราะราคาน่ารักแต่ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพได้อย่างดี แม้จะไม่ครอบคลุมทุกชนิดของขนมปัง ใครที่เน้นปิ้งแต่ขนมปังแผ่นอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ
ใครที่ตามหาเครื่องปิ้งขนมปังมีฟังก์ชันครบครัน แต่มีขนาดเล็กกะทัดรัดไม่เกะกะโต๊ะทานข้าวหรือห้องครัว รุ่นนี้น่าสนใจทีเดียว เพราะมีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง High Lift ช่วยยกขนมปังขึ้น, Defrost ละลายน้ำแข็ง, ควบคุมความร้อนได้ถึง 7 ระดับ และสามารถยกเลิกการทำงานขณะปิ้งได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีถาดรองเศษขนมปังที่ถอดออกไปทำความสะอาดได้อย่างสะดวก
หลายคนต่างชื่นชอบในประสิทธิภาพของเครื่อง เพราะใช้งานง่าย ร้อนเร็ว วัสดุแข็งแรงคงทนทำให้ใช้งานได้นาน แถมยังมีดีไซน์สวยทันสมัย เรียกว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนเลยค่ะ
รุ่นนี้มีช่องใส่ขนมปัง 2 ช่อง ที่ปรับศูนย์กลางได้อัตโนมัติ พร้อมกำหนดระดับความร้อนได้ถึง 7 ระดับ รวมไปถึงฟังก์ชันอุ่นและละลายน้ำแข็ง อีกทั้งยังมีไฟบอกสถานะการทำงานและปุ่มยกเลิกขณะปิ้ง ส่วนใครที่ชอบทานขนมปังครัวซองหรือซื้อขนมปังมาเก็บใส่ตู้เย็นไว้ย่างทานตอนเช้าก็ไม่ต้องห่วง เพราะมีตะแกรงย่างขนมปังในตัว แถมยังมีถาดรองเศษขนมปังที่ถอดทำความสะอาดได้อีกด้วย
หลายเสียงตอบรับของรุ่นนี้บอกว่า พึงพอใจเพราะใช้งานง่าย และตัวเครื่องทำจากวัสดุแข็งแรงคงทน มีสีและดีไซน์ทันสมัยไม่ซ้ำใคร และที่หลายคนชอบคือ มีฝาปิดที่ช่วยรักษาความสะอาดได้เป็นอย่างดี แต่ขนาดอาจจะใหญ่ไปสักเล็กน้อย
อีกหนึ่งรุ่นยอดฮิตที่โดดเด่นด้วยขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก และมาในราคาย่อมเยา พร้อมคุณสมบัติครบ ใช้งานง่ายด้วยปุ่มควบคุมความร้อน 7 ระดับ มาพร้อมฟังก์ชันยกเลิกการทำงาน ทำจากวัสดุสเตนเลสที่นอกจากจะแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานแล้ว ยังให้ความร้อนได้ทั่วถึงอีกด้วย มีถาดรองเศษขนมปังให้พร้อมเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
จากเสียงของผู้ที่ใช้จริงต่างบอกว่าสินค้าคุณภาพคุ้มราคา เพราะใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ปิ้งขนมปังได้เหลืองกรอบพอดี ส่วนวัสดุแข็งแรงและทนทาน น่าสนใจทีเดียวสำหรับครอบครัวเล็กหรือคนที่อยู่คนเดียวค่ะ
รุ่นนี้โชว์จุดเด่นด้วยดีไซน์สวยหรูก่อนเลย ตามมาด้วยฟังก์ชันที่ล้ำกว่าใคร เพราะมีช่องปิ้งสำหรับใส่ขนมปังแผ่นหนาได้และสามารถปรับอุณหภูมิความร้อนได้ตามใจถึง 8 ระดับ ทั้งยังมีฟังก์ชันละลายน้ำแข็งและ High Lift ที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้น เสริมความพิเศษด้วยตะแกรงสำหรับอุ่นขนมปังด้านบน เหมาะกับคนที่ชอบทานขนมปังหลายชนิด โรลก็ได้ ครัวซองก็ดี ที่สำคัญ มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรเสริมด้วยค่ะ
จากรีวิวของผู้ที่ใช้จริง ต่างชื่นชอบในวัสดุที่แข็งแรง พร้อมประสิทธิภาพในการปิ้งที่สามารถเร่งความร้อนได้เร็ว เสียงไม่ดัง ยิ่งดูระดับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไปเลยค่ะ
มาถึงรุ่นยอดฮิตที่ชาวเน็ตซื้อกันไปแบบถล่มทลาย โดยรุ่นนี้พิเศษด้วยตะแกรงย่างขนมปังในตัว มีช่องใส่กว้าง และมาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งควบคุมความร้อนได้ถึง 7 ระดับ, Defrost ละลายน้ำแข็ง, การอุ่นขนมปัง และปุ่มหยุดทำงานขณะปิ้ง เพิ่มเติมด้วยถาดรองเศษขนมปังที่สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย ทำจากพลาสติกหนาคุณภาพดี ตัวเครื่องไม่ร้อนในขณะใช้งาน
ผู้ที่ใช้จริงต่างติดใจในคุณภาพที่ดีเหมาะสมกับราคา ใช้งานง่าย ปิ้งแผ่นเล็ก-ใหญ่ได้และใช้เวลาปิ้งไม่นาน ทั้งยังค่อนข้างทนทาน แถมยังมีที่เก็บสายไฟใต้เครื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ ดีไซน์สวย คุณภาพครบ ราคาเหมาะเจาะแบบนี้ สมกับเป็นที่ 1 เลยค่ะ
ใครที่ต้องการความสะดวกในตอนเช้าที่เร่งรีบ อย่าลืมเก็บ “เครื่องปิ้งขนมปัง” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคุณกันนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยปิ้งขนมปังแผ่นร้อน ๆ ที่หอมกรุ่นและชวนรับประทานแล้ว บางรุ่นยังอุ่นขนมปังประเภทอื่น ๆ ได้อีกด้วย ถือเป็นไอเทมที่ใช้งานได้หลายอย่างและคุ้มค่ามากทีเดียว โดยเราควรเลือกซื้อรุ่นที่มีช่องปิ้งพอเหมาะและมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่เอื้อต่อการใช้งานของเรามากที่สุดนะคะ
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แน่นอนว่าต้องทำงานด้วยไฟฟ้า อย่างเครื่องปิ้งขนมปังเองก็ต้องเสียบปลั๊กถึงจะทำงานได้ และยิ่งเช้าวันไหนเร่งรีบมาก ๆ บางคนอาจลืมถอดปลั๊กได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายมากเลยนะคะ เพราะไฟฟ้าอาจลัดวงจรจนเกิดไฟไหม้ได้ ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งจึงควรเช็กให้ถี่ถ้วนด้วยนะคะ